- Advertisement -

ราคาทองคำตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังถูกกดจากราคาสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ อย่างหนัก โดยเมื่อคืนราคาทองคำได้ลงแตะระดับ 1,707 ดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่หลุดแนวรับแถว 1,700 ดอลลาร์ ลงไป และสามารถดีดกลับมาปิดตลาดที่ 1,736 ดอลลาร์ ได้

นาย พิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT Gold กล่าวกับ GoldAround.com ว่า หลังจากที่ราคาทองคำร่วงหลุด 1,750 ดอลลาร์ ลงมา ภาพรวมระยะกลางมองเป็นขาลง โดยจะต้องลงไปสร้างฐานแนวรับ เพื่อสะสมพลังกันใหม่

ทั้งนี้ แนวโน้มราคาทองเป็นขาลงเกิดขึ้นหลังจาก นางเจเน็ต เยลเลน มานั่ง รมว.คลังสหรัฐ เพราะนโยบายของเจ้าตัวค่อนข้างชัดเจน คือ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ไม่อ่อนจนเกินไป และดันดัชนีหุ้นให้กลับขึ้นมา ทำให้เม็ดเงินไหลกลับ และส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส โควิด-19 ในสหรัฐ เป็นไปตามแผนและได้ผล ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยยะ ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มกลับมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้กดดันราคาทองคำอย่างหนัก

ส่วนปัจจัยที่จะยังหนุนราคาทองนั้น กรรมการผู้จัดการ SCT Gold มองว่า ยังคงเป็นเรื่องของนโยบายของธนาคารกลางทุกประเทศ ที่ยังใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกหลายปี และอัตราเงินเฟ้อสูงที่สูงขึ้น เพราะปริมาณเงินที่อัดฉีดออกไปเพื่ออุ้มประชาชนและภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจมีปริมาณมหาศาล ซึ่งเป็นส่วนที่พยุงราคาทองคำทำให้ปรับตัวลงไปไม่มาก และนักลงทุนยังคงเก็บทองคำไว้ในพอร์ตการลงทุน แต่อาจจะลดสัดส่วนลงมา

หลังจาก “ไบเดน” เข้ามารับตำแหน่ง ได้เร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ฉีดวัคซีน และทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และตลาดหุ้นเริ่มดี ในส่วนของราคาทองคำ หากไม่หลุด 1,800 ดอลลาร์ ลงมา ส่วนตัวยังมองเป็นขาขึ้น โดยยังอยู่ในเวฟ 4 ที่รอขึ้นเวฟ 5 แต่สุดท้ายราคาก็ยืนเหนือแนวดังกล่าวไม่ได้ จึงกลับมามองว่าเป็นขาลง และราคาทองคำอาจจะหลุด 1,700 ดอลลาร์ แต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะขณะนี้ได้เข้าเขต oversold

นาย พิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ SCT Gold

- Advertisement -

ในขณะนี้ ได้มีแรงขายทองคำออกมาปริมาณมาก เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และหากบอนด์ยีลด์ พุ่งแตะถึง 2 % จะเกิดปัญหาตามมา และเชื่อว่า “เฟด” จะต้องมีนโยบายเพื่อเข้ามาดูแล อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าราคาทองคำจะต้องมีการสตรองรีบาวด์ ระดับ 100 ดอลลาร์ในเร็วนี้ เมื่อถึงจุดนั้น จะต้องมาดูว่าราคาจะสามารถยืนเหนือ ระดับ 1,900 ดอลลาร์ ได้อย่างแข็งแรงหรือไม่

ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ SCT Gold มองว่าปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดการสตรองรีบาวด์ได้ก็คือ เรื่องการอนุมัติมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาพคองเกรสได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นข่าวดีกับราคาทองคำ และหากจะให้ดีกว่านั้นอาจจะต้องมีข่าวอื่น ๆ เข้ามาเสริม อาทิ ประสิทธิภาพการป้องกันของวัคซีน โควิด-19 หรือ ตัวเลข ศก. ที่ประกาศออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ ซึ่งในประเด็นหลังมีความเป็นไปได้น้อย

“ทองคำเป็นพระเอกในด้านการลงทุนมาหลายปีที่แล้ว แต่ปีนี้คาดว่าจะเป็นพระรอง แต่ภาพระยะไกล ส่วนตัวยังเป็นขาขึ้นเพราะทั่วโลกยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะหลายประเทศเสพติด QE และยังคงต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำอีกนาน ซึ่งมองว่าทองคำยังคงต้องเป็นสินทรัพย์ที่น่าซื้อและต้องอยู่ในพอร์ตการลงทุน” กรรมการผู้จัดการ SCT Gold กล่าว พร้อมแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ว่า

มองว่าเล่นฝั่งซื้อน่าจะดีกว่า เพราะมองว่าราคาได้ลงมามากแล้ว และตลาดอยู่ในโซน oversold หรือขายมากเกินไป แต่หากจะให้ดีให้ราคาย่อตัวลงมาแนว 1,715 ดอลลาร์ จึงเข้าซื้อ พร้อมตั้ง LS แถว 1,700 – 1,680 ดอลลาร์

- Advertisement -

คลิป สัมภาษณ์พิเศษ ทิศทางราคาทองคำ โดย คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ – บจ.SCT วันที่ 3 มี.ค.64

ขอขอบคุณ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด

- Advertisement -