- Advertisement -

หลังจากที่ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้พูดถึงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยระบุว่าสูงเกินไป พร้อมระบุว่า เฟดอาจจะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อควบคุม

ทำให้โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เดือน พ.ค. และ มิ.ย. อาจจะมีการปรับขึ้น 50 bp

ตามด้วยการปรับขึ้น 25 bp ในการประชุมอีก 4 ครั้งที่เหลือของปี 2565 และการปรับขึ้นสามไตรมาสในไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ทำให้ โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับ 3% ถึง 3.25%

นักเศรษฐศาสตร์ของ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 6% ถึง 9% จนถึงปี 2024 ซึ่งจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไม่หยุดยั้งในตอนนี้

- Advertisement -

ด้าน นายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตีส์ เทรด จำกัด หรือ SCT กล่าวกับ GoldAround.com ว่า

ความเห็นส่วนตัวยังมองว่าเฟดยังจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย 0.50 bp ในการประชุมครั้งถัดไป เพราะความไม่แน่นอนในเรื่องต่าง ๆ ยังมีสูงมาก

แต่ที่สิ่งที่ประธานเฟดพูดออกไปเรื่องการคุมเงินเฟ้อ ก็เพื่อทำให้ตลาดเห็นว่าเฟดมีความจริงจังในการดูแลเรื่องนี้

แต่เมื่อถึงเวลาประชุมเพื่อตัดสินใจ คงต้องมาดูข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดก่อนว่าเป็นเช่นไร และหากไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 0.50 bp ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ราคาทองคำจะพุ่งแรงอีกครั้ง ( ฟังคลิปสัมภาษณ์ )

ในช่วงนี้ ราคาทองคำก็จะ sideway ไปอีกระยะ หากว่าราคายังยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ ได้ ยังมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,950-2,000 ดอลลาร์ ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ในทางกลับกันหากราคาทองคำหลุด 1,900 ดอลลาร์ ลงไป ก็ต้องไปดูแนวรับแถว 1,880 และ 1,860 ดอลลาร์ แต่ราคาอาจจะเพียงแค่ลงไปแตะจุดต่ำสุดแล้วดีดกลับขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปีนี้ราคาทองคำสวิงกรอบ 100 ดอลลาร์ เป็นเรื่องปกติไปแล้ว

- Advertisement -

ทั้งนี้ การลงทุนระยะสั้น

นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เป็นหลัก โดยจุดที่น่าสนใจซื้อ คงแถวราคา 1,900 ดอลลาร์

ขณะที่ นักลงทุนระยะกลาง

รอจังหวะราคาทองคำปรับลดลงมาแถว 1,880 ดอลลาร์ ก็น่าเป็นจุดที่น่าสนใจเข้าซื้อ เพราะเป้าหมายสำคัญของทองคำ ก็คือ การขึ้นไปทำลายสถิติ 2,075 ดอลลาร์ ซึ่งรอบที่แล้วยังไปไม่ถึง แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปแน่นอน และจะไปไกลกว่านั้น เพราะเหตุการณ์ในอนาคตยังมีหลายเรื่องที่ต้องติดตาม ทั้งสงคราม เศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน

ส่วนกลุ่มที่ลงทุนทองคำในประเทศ

ในปีนี้ถือว่ามีความได้เปรียบ เพราะได้เงินบาทอ่อนค่ามาหนุนไว้ ทำให้ขณะนี้ ราคายังไม่หลุดบาทละ 30,000 บาท และคาดว่า แนวโน้มเงินบาทจะอ่อนค่าลงไปอีก หากว่าราคาปรับลดต่ำกว่า 30,000 บาท เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามา ยิ่งหากหลุดต่ำกว่า 29,000 บาท ก็ยังน่าซื้อสะสม ส่วนกลุ่มที่ติดอยู่ระดับ 32,000 บาท อาจจะต้องซื้อถัวเฉลี่ยเพื่อให้ราคาลดต่ำลงมา เพราะหากจะรอให้ราคาดีดกลับขึ้นไปคงต้องรอเวลาอีกระยะ

ขอขอบคุณ : SCT GOLD

- Advertisement -