หลังจากที่ราคาทองคำ spot ได้กลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น โดยเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ได้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านแถว 1,940 ดอลลาร์ ขณะที่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนของญี่ปุ่นคงอ่อนค่าต่อเนื่อง
ทำให้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ราคาทองคำค้าปลีกในญี่ปุ่นได้พุ่งขึ้นแตะ 10,001 เยน หรือ 68.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกรัม เป็นครั้งแรก โดยเพิ่มขึ้น 28 เยน จากวันก่อนหน้า ถือเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ทั้งนี้ เทรดเดอร์โลหะมีค่าจากญี่ปุ่นระบุว่า ราคาทองคำที่ซื้อขายในสกุลเงินเยนปรับตัวขึ้นเนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ทั้งนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนได้หันไปซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ แทนเงินเยน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จะขยับกว้างขึ้น หลังประธานเฟดส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟดเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. ว่าจะยังคงหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป เพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับมาที่เป้าหมายที่ระดับ 2%
นอกจากนั้น ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำในญี่ปุ่นแพงขึ้น ก็เพราะราคาทองคำที่ซื้อขายในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง สวนทางกับเงินเยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งได้เป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำภายในประเทศญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซค คาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะลดลงเหลือ 155 ต่อดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งถือเป็นค่าเงินที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2533 หากว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ยังคงรักษาจุดยืนใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง
อ้างอิงข้อมูล สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Comments are closed.