Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

InterGOLD ชี้ทองคำร่วง รับข่าวเฟดใช้ยาแรงสกัดเงินเฟ้อ แต่จะกลับมาผงาดได้ในอนาคต

- Advertisement -

1,482

- Advertisement -

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround ว่า หลังจากที่ราคาทองคำได้ปรับตัวลงแรง หลังจากการประชุมธนาคารกลางเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฟดได้ส่งสัญญาณการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงต่อเนื่อง

ทำให้ในระยะสั้น ทองคำถูกดันจากนโยบายดังกล่าว แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกนาน กว่าที่เฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ย แต่ตลาดทองคำจะรับข่าวค่อนข้างเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจริง และหลังจากที่มีการปรับดอกเบี้ยไปแล้ว ราคาอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้ อยากให้จับตาการเบรคเอาท์ครั้งใหญ่ของราคาทองคำ ที่คาดว่าอาจจะมีขึ้นในไม่ช้า ซึ่งอาจจะเห็นราคาพุ่งขึ้น หรือ ลดลงแรง

กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ ฯ มองว่า ในรอบนี้เฟดจะใช้ยาแรงในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

เพื่อให้ตลาดมั่นใจว่า เฟดจริงจังกับการแก้ปัญหาดังกล่าว หลังจากที่ดัชนี CPI เดือน ธ.ค. พุ่งแตะระดับ 7 % พุ่งสูงในรอบหลายสิบปี

- Advertisement -

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกหลังเดือน มี.ค. มากกว่า 0.25 % ตามที่ระบุไว้ครั้งแรก โดยอาจจะขึ้นระดับ 0.50 -0.75 ซึ่งจะทำให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนรุนแรง

ราคาทองคำอาจจะปรับลดลงแรง ในช่วงที่จะประกาศขึ้นดอกเบี้ย แต่หลังจากนั้น ยังมองว่าราคาทองคำจะค่อย ๆ ขยับขึ้นมา เพราะการขึ้นดอกเบี้ยแรง อาจจะสกัดตัวเลขเงินเฟ้อได้ แต่ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมเกิดการชะงักงันได้ เพราะจะมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่มีกำลังมากพอที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่เชื่อว่าหลายประเทศคงไม่สามารถทำได้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้พุ่งไปไกลแล้ว ซึ่งทองคำอาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยง

ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงไตรมาสแรก มองว่าจะอยู่ในกรอบ 1,780-1,850 ดอลลาร์ โดยระยะสั้น ราคาทองคำ อาจจะปรับตัวลดลงมาได้อีก แต่ระยะยาวยังมองว่าทองคำยังแข็งแกร่งเช่นเดิม

ขณะที่ ทองคำไทยยังคงได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า เพราะค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่า และเมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ย คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกเพิ่มเติม ทำให้ราคาอาจจะลดลงไม่มาก

อย่างไรก็ดี นักลงทุนจะต้องจับตาประเด็นอื่น ๆ ที่อาจจะเข้ามาเกี่ยวโยงด้วย โดยเฉพาะปัญหาระหว่างรัสเซีย กับ ยูเครน หากเกิดเหตุการสู้รบกับจริง อาจจะทำให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยตรง

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More