ราคาทอง 14 ม.ค.68
ข่าวสารทองคำประจำวัน (Fundamental Overview)
ราคาทองคำโลกปรับตัวร่วงหลังทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนปิดตลาดที่ 2,663 ดอลลาร์ ในวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยตลาดถูกแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว รวมการแข็งค่าของสกุลดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อีกทั้งการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ขณะที่สัปดาห์นี้นักลงทุนจับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยังมี รายงานยอดค้าปลีก ในเดือนธันวาคม พร้อมทั้งจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าคาด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดต่อ
ข้อมูลเทคนิค (Technical Analysis)
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend) ในภาพรวมใหญ่ นอกจากนี้ราคาทองยังเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มค่าเฉลี่ยทั้งหลังยังสะท้อนฝั่ง ซื้อยังได้เปรียบตลาด ขณะที่ราคาล่าสุดทองโลกหลุดแนวรับ 2,680 ดอลลาร์ ปิดตลาดแถว 2,663 ดอลลาร์ หลัง RSI เกิดสัญญาณ Overbought แถวโซน 2,690-2,700ดอลลาร์ ทำให้เกิดแรงเทขายรุนแรงตามมาโดยแนวรับสำคัญบริเวณ 2,665 ดอลลาร์ หากราคาหลุดแนวรับเหล่านี้ ควรระมัดระวังแรงขายที่มากขึ้น สำหรับแนวต้านสำคัญ: บริเวณ 2,680-2,700ดอลลาร์ การไม่สามารถทะลุแนวต้านเหล่านี้ อาจบ่งบอกถึงแรงขายที่ยังแข็งแกร่ง
กลยุทธการลงทุน เข้าขาย
หากราคาทองคำไม่สามารถเบรคเหนือ 2,680-2700 ดอลลาร์
กลยุทธการลงทุน เข้าซื้อ
หากราคาทองคำยังคงรักษาระดับเหนือ 2,665 ดอลลาร์ และกรณีเบรกเหนือ 2,680 ดอลลาร์
กำหนดจุดตัดขาดทุน
หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับแนวรับ เช่น 2,665ดอลลาร์
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,665/2,645 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,680/2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 43,800/43,600บาท
แนวต้าน 43,900/44,000บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50%
ขอขอบคุณ : บริษัท ออสสิริส จำกัด
Comments are closed.