ข้อมูลจาก สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เพจ Thai Gem and Jewelry Traders Association ได้แนะนำวิธีการเลือกซื้อเพชรไว้น่าสนใจ ดังนี้
วิธีเลือกซื้อเพชรอย่างไรให้ได้ เพชรแท้จากธรรมชาติ
1. ตรวจสอบใบรับรองทุกครั้งที่ซื้อ-ขาย
2. เพชรแท้ธรรมชาติต้องได้รับใบรับรอง จากสถาบันอัญมณีที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล
3. ผู้บริโภคสามารถสังเกตในใบรับรอง หากมีข้อความ Laboratory Grown Diamond กำกับ แสดงว่า เป็นเพชรจากการสังเคราะห์โดยมนุษย์
4. ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความสับสน เช่น เพชรเลี้ยง เพชรวีแกน เพชร CVD เพชร HPHT เพชรธรรมชาติปรับปรุงคุณภาพ เพชรสวิส เพชร CZ
เพชร : ความงามอันทรงคุณค่าที่ธรรมชาติมอบให้ ผลึกใสแวววาว ผลึกที่แข็งที่สุด และเป็นแร่ที่หายากที่สุดชนิดหนึ่ง นั่นคือ “เพชร” จากคุณค่าในตัวเพชรเองที่ธรรมชาติได้รังสรรขึ้นด้วยกาลเวลานับล้านปี จากแรงดันและความร้อนใต้ผิวโลกที่ลงตัวจนทำให้คาร์บอนตกผลึกจนแข็งแกร่ง มีความใส ความแวววาว และประกายอันสวยงาม เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น จึงเรียก เพชรธรรมชาติ ว่า “เพชรแท้” (Natural Diamond)
ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาประดิษฐ์เพชรขึ้นเรียกว่า “เพชรสังเคราะห์” (Synthetic Diamond) ขึ้นมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคสินค้าอีเลคโทรนิคของคนทั่วโลก
เพชรสังเคราะห์ถือเป็นเพชรปลอมชนิดหนึ่ง ซึ่งเพชรปลอมมีอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น CZ, Moissanite, แก้ว (คริสตัล), พลาสติก, พลอยไร้สี
การตลาดในปัจจุบันมีการใช้คำโฆษณาที่สร้างความสับสน ซึ่งข้อแตกต่าง คือ เพชรแท้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่วนเพชรปลอมเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือเป็นวัสดุเลียนแบบอื่น ๆ
ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อเพื่อให้ได้ “เพชรแท้ธรรมชาติ” และ ไม่ถูกหลอกด้วยคำโฆษณาต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความสับสน
ข้อแตกต่างระหว่างเพชรแท้และเพชรปลอมจึงมีดังนี้
คุณลักษณะของเพชรแท้
เพชรแท้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
เพชรแท้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด จึงเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่นเดียวกับ ทองคำ และพลอยสี
เพชรปลอมแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
1. Synthetic Diamond (เพชรสังเคราะห์) หรือ Lab Grown Diamond (เพชรที่เกิดในห้องทดลอง)
เพชรที่ถูกสร้างขึ้นในโรงงาน ซึ่งปัจจุบันนิยมสังเคราะห์เพชรด้วย 2 วิธีการ ได้แก่
CVD (Chemical Vapor Deposition) เพชร CVD เกิดจากกระบวนการทางเคมีในการสร้างชั้นเคลือบผิว และ ใช้อุณหภูมิ 700-1,000 องศาเซลเซียส ในการสังเคราะห์วัตถุให้มีองค์ประกอบทางเคมีใกล้เคียงเพชรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
HPHT (High-Pressure High-Temperature process) เพชรที่เกิดขึ้นโดยการบดอัดแผ่นแกรไฟต์ด้วยแรงดันและอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส จนเกิดการตกผลึก
สถาบัน GIA, IGI และ สถาบันชั้นนำอื่น ๆ ได้ออกใบรับรองเพชร โดยจะแยกเพชรแท้ และเพชรปลอมอย่างชัดเจน ซึ่งใบรับรองเพชรสังเคราะห์จะมีคำว่า “Laboratory Grown Diamond” กำกับในใบรับรอง เพื่อให้ผู้บริโภคทราบอย่างชัดเจน
2. Diamond Simulant (เพชรเลียนแบบ)
คือ “การเลียนแบบที่ลักษณะภายนอก” อาจเป็นได้ทั้งวัตถุที่ประดิษฐ์ขึ้นหรือที่มีในธรรมชาติ เพื่อเลียนแบบรูปลักษณ์ภายนอกของเพชรแท้ แต่ไม่ได้มีองค์ประกอบทางเคมีเช่นเดียวกับเพชร ได้แก่
CZ (Cubic zirconia) , Colorless Gems (พลอย) , Moissanite , Glass and Crystal Glass แก้วและแก้วคริสตัล , Plastic พลาสติก , YAG (Yttrium aluminium garnet) , G.G.G (Gadolinium gallium garnet)
ที่มาข้อมูล สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ
Comments are closed.