- Advertisement -

เมื่อคืนนี้ราคา gold spot ได้กลับมาร้อนแรงอีกรอบ โดยได้ขึ้นไปทดสอบ 1,870 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถยืนอยู่ได้ แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้ปิดตลาดขยับเพิ่มขึ้นทุกวันจาก 1,830 ดอลลาร์ เรื่อยมาจนถึง 1,860 ดอลลาร์

“ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากเรื่องของเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น หรือ บอนด์ยีลด์จะดีดตัวขึ้น แต่ราคาทองคำก็ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มองว่าในระยะสั้นอาจจะได้เห็นราคาทองคำขยับขึ้นไปแตะแนว 1,900-1,920 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่แนวรับแถว 1,835 ดอลลาร์ ถือว่ามีความแข็งแรง แต่หากหลุดไปได้ยังมองว่าแนวรับที่ 1,820 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ จะเอาอยู่ แต่หากจะยังหลุดทะลุไปอีก ก็ไม่ควรหลุด 1,780 ดอลลาร์ เพราะจะทำให้เสียภาพแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งของทองคำ” ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ (GRC) กล่าวกับ GoldAround.com

ส่วนราคาทองไทย มองว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบบาทละ 28,000-29,000 บาท ก่อนสิ้นปีราคา หาก gold spot เคลื่อนไหวไปใกล้ ๆ 2,000 ดอลลาร์ ก็อาจจะเห็นราคาทองไทยไปแตะบาทละ 29,500 บาท ได้

ส่วนจะกลับไปถึงบาทละ 30,000 บาท หรือไม่นั้น หากสถานการณ์เรื่องเงินเฟ้อยังไม่ดีขึ้น ก็มีความเห็นไปได้ แต่อาจจะเป็นในช่วงตรุษจีน

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นอาจจะเห็นราคาทองคำย่อตัวลงมาสั้น ๆ เพื่อปรับฐาน หลังจากได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาระยะหนึ่ง และหาก gold spot ลงมาในระดับ 1,800 ดอลลาร์ต้น ๆ และราคาทองคำไทยลดลงมาเหลือบาทละ 28,000 บาทต้น ๆ ก็จะเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร

- Advertisement -

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ มองว่า ภาพรวมตลาดทองคำได้กลับมาเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว โดยมีปัจจัยหนุนหลัก คือ เรื่องของเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาการผลิต ทั้งแรงงานที่ยังไม่กลับมาทำงาน และราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

แม้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มองว่าปัญหาทั้งหมดน่าจะจบลงในได้ในช่วงกลางปีหน้าก็ตาม แต่ต้องดูว่า กว่าจะถึงช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ จะพัฒนาไปในทิศทางใด ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดลดความน่ากังวลลง หลังมีวัคซีนออกมาให้เลือกใช้มากมาย

ส่วนข่าวที่จะกดดันราคาทองคำในขณะนี้ เหลือเพียงเรื่องเดียว คือ การขึ้นดอกเบี้ย แต่กว่าจะเกิดขึ้นได้ คงต้องผ่านพ้นครึ่งปีแรกของปีหน้าไปก่อน เพราะต้องรอให้การลด QE เสร็จสิ้น

ขณะที่ ECB และ BOE ก็ยังไม่ขยับเพราะรอดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะมีนโยบายเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยอย่างไร จึงมองว่าเป็นช่วงโอกาสที่ดีของทองคำ

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สอดคล้องกับผลวิจัยฯ เดือนล่าสุดของศูนย์วิจัยทองคำ ซึ่งนักลงทุน และบริษัทค้าทองรายใหญ่ในประเทศ ต่างมองตรงกันว่า ให้จับตาไปที่เรื่องของเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน ที่จะหนุนทองคำให้ขยับเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยังคงต้องติดตามเรื่องของการจ้างงาน แต่หากจะดูจากเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า แม้ตัวเลขการจ้างงานจะดีขึ้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับเรื่องของเงินเฟ้อมากกว่า ขณะที่ตลาดคริปโตฯ ที่เคยดึงดูดความสนใจจากราคาทองคำไปบางส่วน ก็ได้ขยับเป็นคู่ขนานกับราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้ออีกรูปแบบหนึ่ง” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวทิ้งท้าย

- Advertisement -