Goldman Sachs ออกรายงานโดยประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ เหลือเพียง 5.5% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 9% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้
Goldman Sachs มองว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าคาดการณ์ไว้
โดยในวันอังคารสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจาก โควิด-19 มากกว่า 1,000 ราย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคการผลิต
Jan Hatzius chief economist ระบุในรายงานว่า การใช้จ่ายสำหรับการบริโภค การเดินทาง และบริการอื่น ๆ มีแนวโน้มปรับตัวลงในเดือน ส.ค.
แม้ Goldman Sachs จะคาดการณ์ว่า การปรับตัวลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง แต่ Goldman Sachs ระบุว่า ภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานจะดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้
ขณะเดียวกัน Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP ประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 6.5% จากเดิมที่ระดับ 5.5% Goldman ประมาณการการเติบโตทั้งปีที่ 6% และ 4.5% ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ
เนื่องจาก ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จะบรรเทาลง ขณะที่ภาคบริการฟื้นตัวขึ้น
ส่วนราคาทองคำ Goldman Sachs ยังคงคาดหวังว่า จะแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากความต้องการทองคำมีการฟื้นตัว
ที่มา : kitco news
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.