เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 3 เม.ย.25

แม้ทองคำจะกลับมาบวกแรง แต่ต้องเกาะติดสงครามการค้าใกล้ชิด หาก gold spot ยืนเหนือ $3,137 ลุ้นไปต่อ

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

คุณพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิเคราะห์การลงทุน บจ.ออสสิริส กล่าวกับ goldaround ว่า

วานนี้ราคาทองคำ gold spot พุ่งแรง วันเดียวปิดบวก 100 ดอลลาร์ โดยมาปิดตลาดที่ระดับ 3,082 ดอลลาร์ หนุนให้ราคาทองแท่ง 96.5% พุ่งทะลุบาทละ 50,000 บาท ก่อนที่เช้าวันนี้ ราคา gold spot ยังขยับขึ้นต่อมาแตะระดับ 3,130 ดอลลาร์

โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ ปธน.ทรัมป์ ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ให้กับประเทศต่าง ๆ เป็นเวลา 90 วัน และมีผลบังคับใช้ในทันที

แต่ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 125% จากเดิม 104% โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีเช่นกัน เพื่อตอบโต้จีนที่เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 84% จากเดิม 34% โดยมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย. ซึ่งสร้างความตึงเครียดด้านสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ประจำวันที่ 18-19 มี.ค. โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ส่วนสิ่งที่ต้องจับตาต่อหลังจากนี้ นอกเหนือจากเรื่องสงครามการค้า หลังสหรัฐและจีนการเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ คืนนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้ แก่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. และรวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์จะมีตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

เมื่อมาดูข้อมูลเทคนิค ภาพรวมใหญ่ระยะกลางถึงยาวราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคาจะร่วงลงแรงแต่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ 2,950 ดอลลาร์ ยังไม่ถือว่าเสียทรงขาขึ้น

และเมื่อวานนี้ได้มีแรงรีบาวด์ระยะสั้น ทำให้ราคาสามารถเบรคแนวต้านที่ระดับ 3,057 ดอลลาร์ได้ ทำให้ราคาทองคำ gold spot กลับมาเคลื่อนไหวสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย ทำให้สถานะฝั่ง Buy กลับมาได้เปรียบตลาด โดยมีเป้าเหมายถัดไปที่ระดับ 3,100-3,135 ดอลลาร์

กลยุทธการลงทุน นักลงทุนระยะสั้น รอจังหวะซื้อเมื่อราคาทรงตัว หากทองคำโลกหลุด 3,085 ดอลลาร์ และเข้าใกล้แนวรับสำคัญ เช่น 3,057 ดอลลาร์ หรือทองไทยราว 49,950-49,600 บาท ให้รอสัญญาณกลับตัวก่อนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร และมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,050 ดอลลาร์ หรือทองไทย 49,500 บาท เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคาลงต่อ

ส่วนเป้าหมายกำไรที่ 3,100-3,135 ดอลลาร์ หรือราคาทองไทยที่ 50,100-50,500 บาทหากมีข่าวหนุน เช่น ความตึงเครียดการค้าปะทุใหม่

ส่วนนักลงทุนระยะยาว รอซื้อสะสมทองคำเมื่อราคาย่อตัว โดยราคาทองไทยต่ำกว่า 50,000 บาท ในกรอบ 47,000-49,000 บาท โดยจุดเช้าซื้อจะห่างกันประมาณ 500 บาท ถือเป็นโอกาสสะสมสำหรับถือยาว

เพราะทองคำยังมีศักยภาพขาขึ้นในภาพใหญ่จาก ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและนโยบายทรัมป์ ,เงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นในอนาคตจากต้นทุนสินค้านำเข้า รวมถึงนโยบายการลดดอกเบี้ยของเฟด ที่คาดว่าจะดลอย่างน้อย 3 ครั้งนปีนี้ ซึ่งคาดว่าราคาอาจกลับไปทดสอบ 51,000-55,000 บาทใน 6-12 เดือน หากวิกฤตทวีความรุนแรงมากขึ้น

“อย่างไรก็ดีการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และมีการวางแผนที่รัดกุม มีจุดตัดขาดทุน เพราะตลาดยังคงมีความผันผวน จากการตอบโต้กันระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงนโยบายของ ปธน.ทรัมป์ที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา อย่างไรก็ดีในระยะยาวยังมองว่าแรงหนุนทองคำยังดี โอกาสที่จะทำ ATH ใหม่ พร้อมที่จะเกิดขึ้นราคาทองคำไทยและราคาทองคำ gold spot”คุณพีระพงศ์ กล่าว

รับชมคลิป