ราคาทอง 4 ก.ค.68

กลยุทธ์ : ปรับฐาน

แนวต้าน : $3,370, 51,500 บาท

แนวรับ : $3,300, 50,900 บาท

ภาพรวมสถานการณ์

ตลาดหุ้นทั่วโลกทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ดอลลาร์แข็งค่า และ Bond yield พุ่ง หลังรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่งผลให้ตลาด ลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed ด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่าน ร่างกฎหมายลดภาษีถาวรของทรัมป์ ซึ่งแม้เป็นบวกต่อตลาดหุ้น แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะและเงินเฟ้อ Fed ชี้อาจคงดอกเบี้ยยาวนานขึ้น

นอกจากนี้ สหรัฐฯ และจีนลดความตึงเครียดทางการค้า โดยยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกบางส่วน ในขณะที่ ภาคบริการของอังกฤษฟื้นตัว ส่งสัญญาณบวกต่อโอกาส BoE ลดดอกเบี้ย ส่วน ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทย จากปัจจัยการค้าโลกและความไม่แน่นอนทางการเมือง

ประเด็นที่ต้องติดตาม

• ทิศทางนโยบายการเงินของ Fed หลังข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์

• ผลกระทบของการลดภาษีถาวรในสหรัฐฯ ต่อหนี้สาธารณะและอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว

• ความคืบหน้าของการลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

• สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ และโอกาสในการลดดอกเบี้ยของ BoE

• สถานการณ์เศรษฐกิจไทย ทิศทางการส่งออก และปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

วันนี้เป็นวันหยุดสหรัฐคาดว่าราคาจะไม่วิ่งเท่าไหร่ หากพูดถึงเทคนิคแล้ว ระยะสั้นราคาทองคำน่าจะโดนกดดันจากการที่ MACD ราย 4 ชม ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อจัดเจน แต่หากดูจากเทรนไลน์ใหญ่ราคาทองคำยังอยู่ในโซนขาขึ้นที่แกร่งอยู่ ดังนั้นกลยุทย์ระยะสั้นแนะนำว่าหากย่อลงมาไม่หลุด 3,300 $ ให้เสี่ยงเข้าซื้อไปก่อน แต่หากราคาหลุด 3,300 $ ลงไป ให้ Cut loss แล้วรอซื้ออีกทีบริเวณ 3,250 $

คำแนะนำ

• ราคาทองคำมีแนวโน้มถูกกดดันจาก การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และ การลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด

• การที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ แสดงถึง ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น อาจดึงเม็ดเงินออกจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

• แม้ว่านโยบายลดภาษีของทรัมป์จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น แต่ ความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะและแรงกดดันเงินเฟ้อ อาจเป็นปัจจัยหนุนทองคำในระยะยาว หากความกังวลดังกล่าวเพิ่มขึ้น

• นักลงทุนควรติดตาม ทิศทางนโยบายการเงินของ Fed อย่างใกล้ชิด และ ความคืบหน้าของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อประเมินความผันผวนและโอกาสในการลงทุนในทองคำ

ขอขอบคุณ : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด