เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาราคาทองคำ ได้เคลื่อนไหวกระชากตัวแรงเกือบ 25 ดอลลาร์ โดยได้ลดลงแตะระดับ 1,869 ดอลลาร์ ก่อนที่ในอีกชั่วโมงถัดมาราคาทองคำได้พุ่งแต่ 1,894 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาทองคำจะลดความร้อนแรงลงมาเคลื่อนไหวแนว 1,890 ดอลลาร์ (ดูกราฟราคาทองคำ..)
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนในครั้งนี้ มาจากการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ เดือน พ.ค. ที่ดีดตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. ขณะที่เมื่อเทียบรายปีดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.0% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% หลังจากเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.2%
ทั้งนี้หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.9% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 3.8% สูงสุดในรอบ 29 ปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.0%
จากตัวเลขที่ออกมาทำให้หลายฝ่ายมองว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่มีนักวิเคราะห์จากต่างชาติบางสำนักกังวลว่าข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งค่าขึ้นอาจจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ เพราะอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องมาทบทวนยโยบายการเงินอีกครั้ง โดย เฉพาะอาจจะจะพิจารณาลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนเร็วกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้คาดว่าการประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า จะถูกจับตาจากทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดีมีการตั้งข้อสังเหตุอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ การลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ10 ปี ของสหรัฐ ซึ่งในสัปดาห์นี้ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสามเดือน โดยล่าสุด (21.10 น.) อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงแตะ 1.487% ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า การเคลื่อนไหวของทั้ง 2 ส่วน ไม่สอดคล้องกับทฤษฎี ที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นแต่อัตราผล ตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เป็นการสนับสนุนแนวคิดของธนาคารกลางสหรัฐที่ว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ไปดูการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจตัวอื่นๆที่ สำคัญ คือตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 376,000 รายต่ำที่สุดในรอบเกือบ 15 เดือน หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 และเป็นการ ปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ โดยต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 385,000 ราย แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ส่วนผลประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%นอกจากนี้ยังมีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่ง ECB จะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2565 โดยจะซื้อพันธบัตรในวงเงินเดือนละ 2 หมื่นล้านยูโร
มาดูการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจาก Kitco news มองว่สในระยะสั้นราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยแนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ แนวต่อไปจะอยู่ที่ 1,906 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในสัปดาห์นี้ ก่อนที่เป้าหมายหลักจะอยู่ที่ 1,919 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งที่ในเดือนมิถุนายน ในฝั่งแนวรับจุดแรกอยู่ที่ 1,871 ดอลลาร์ 1,866 ดอลลาร์ และแนวรับทางเทคนิคที่ 1,850 ดอลลาร์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.