ราคาทอง 3 ธ.ค.67
ทิศทางแนวโน้มราคาทองคำโลกวันนี้
เมื่อวานนี้ทองร่วงแต่เช้าก่อนมารีบาวด์ช่วงเย็น จากการแข็งค่าของดอล์ และมาซึมๆช่วงค่ำหลังตัวเลขการผลิตดีกว่าคาด ภาพรวมทองพักฐานระยะสั้นหลังยืน 2650-55 ไม่ได้ เว้นเสียว่าราคาทองจะขึ้นและปิดเหนือ 2670 ได้จึงมองขึ้น คืนนี้ตัวเลขไม่มาก แต่ความผันผวนของราคารออยู่ในคืนพรุ่งนี้ถึงศุกร์ เพราะช่วงดังกล่าวจะมีตัวเลขจ้างงานประกาศออกมา ซึ่งออกได้สองหน้า / เมื่อคืนนี้ปูตินได้ออกกฎหมายเอาเงิน 1 ใน 3 เพื่อหนุนสงคราม แสดงว่าตอนนี้รัสเซียยังไม่จบง่ายในยูเครน ซึ่งเป็นบวกทองระยะยาว
กลยุทธ์
วันนี้ทองยืนปิดเหนือ 2650 ไม่ได้จะลงต่อไปเทสรับสำคัญ 2605 แนะขายเพื่อรอย่อซื้อปิดเร็วๆ นักลงทุนยังจับตารอข่าวสงครามและการจ้างงานสหรัฐฯ ซึ่งไม่แน่นอนตอนนี้
ปรับพอร์ตให้สมดุลรองรับความผันผวน หรือจะมีแกว่งแรงถ้ามีตัวแปรข่าวสงครามหนุน หรือรอการ BREAKOUT กรอบ 2635-70 ค่อยเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เพราะราคาจะวิ่งแรง ไว้ค่อย UPDATE ในบทวิเคราะห์รายวันต่อไป
วิเคราะห์ทองคำไทยวันนี้
ราคาทองคำไทยในปัจจุบันแสดงแนวโน้มการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways Up โดยมีแนวรับสำคัญที่ 42,750 บาท และแนวต้านสำคัญที่ 43,400 บาท ราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดระหว่างแนวรับและแนวต้าน โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน หากสามารถทะลุระดับ 43,400 บาทได้สำเร็จ ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ปรับตัวต่อไปยังโซน 43,600 – 43,800 บาท อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดแนวรับที่ 42,750 บาท อาจเกิดแรงขายเพิ่มขึ้น และราคาจะมีแนวโน้มลงไปทดสอบระดับ 42,500 บาทอีกครั้ง
ปัจจัยข่าวที่มีผลกระทบในวันนี้ ได้แก่ การประกาศตัวเลข JOLTS Job Openings ซึ่งแสดงถึงการแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และอาจส่งผลต่อมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หากตัวเลขนี้สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการแถลงของประธาน Fed ในวันถัดไป ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและค่าเงินดอลลาร์ กลยุทธ์การเทรดที่แนะนำคือ การเปิดสถานะซื้อ (Long) หากราคายืนเหนือ 43,400 บาท โดยตั้งเป้าทำกำไรที่ 43,600 – 43,800 บาท พร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 43,300 บาท หรือหากราคาปรับลงต่ำกว่า 42,750 บาท ให้เปิดสถานะขาย (Short) โดยตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ 42,500 บาท และกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 42,850 บาท การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากปัจจัยข่าวที่สำคัญในวันนี้อาจเพิ่มความผันผวนในตลาดทองคำ
วิเคราะห์ค่าเงินไทย
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.24 – 34.54 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยหลักที่กดดันเงินบาทคือการขายพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ มูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าตามกลุ่มค่าเงินภูมิภาค นอกจากนี้ ตลาดยังรอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี ISM ภาคการผลิตที่มีผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของดอลลาร์ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นต่อ กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ในประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้นมาที่ 49.3 สะท้อนมุมมองเชิงบวกในช่วงไฮซีซั่น แต่การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดพันธบัตรและหุ้นยังคงเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินบาท ซึ่งแนวโน้มระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยมีแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน
สถานะตลาด SIDEWAY DOWN 2607-57
จุดเข้า SELL 2646-60
เป้าหมาย 2600-10
Stop Loss 2667
ไม่มีสถานะ : ขาย
มีสถานะซื้อ : ขึ้นขาย
มีสถานะขาย : รอ อารมณ์ตลาด : 2
ทองคำแท่ง 96.5 % (บาท)
• แนวรับ : 42900/ 42600
• แนวต้าน : 43200/ 43400
ทองคำแท่ง 99.99 % (บาท)
• แนวรับ : 44,400 / 44,100
• แนวต้าน : 44,700 / 44,900
Gold Spot
• แนวรับ : 2622 / 2605
• แนวต้าน : 2653 / 2670
ขอขอบคุณ : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด (SCT GOLD)
Comments are closed.