- Advertisement -

อินโฟเควสท์ : ในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 28-29 เม.ย.นี้ บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการหารือกันเกี่ยวกับโครงการเงินกู้สำหรับภาคธุรกิจและรัฐบาลระดับรัฐ หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศ

นายทิม ดาย ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยโอเรกอนและผู้สังเกตการณ์เฟด คาดการณ์ว่า เบื้องต้นเฟดจะสร้างคามมั่นใจว่าตลาดการเงินจะดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นผ่านโครงการสนับสนุนด้านสภาพคล่อง โดยเป้าหมายคือป้องกันไม่ให้เกิดการล่มสลายทางการเงิน ซึ่งจะทำให้แรงกดดันด้านเงินฝืดรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ระดับ 0% และประกาศโครงการปล่อยกู้ใหม่วงเงินสูงถึง 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะที่นางไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแกรนท์ ธอร์นตัน บริษัทด้านการบัญชีรายใหญ่ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า เฟดจะแสดงให้เห็นว่า จะยังคงสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ และกำลังพิจารณาที่จะขยายโครงการ Main Street Lending Program เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่มีขนาดใหญ่เกินไปกว่าที่จะขอรับเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แต่ก็มีขนาดธุรกิจก็ไม่ใหญ่พอที่จะไประดมทุนผ่านทางตลาดหุ้นกู้ ซึ่งการขยายเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย สามารถเข้าร่วมโครงการเงินกู้ของเฟดได้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะประกาศเรื่องนี้ในการสรุปผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ (29 เม.ย.)

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เฟดได้ขยายเกณฑ์การมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเงินกู้วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนตลาดพันธบัตรเทศบาลแล้ว ซึ่งจะทำให้เมืองขนาดเล็ก และเขตปกครองต่างๆ ของสหรัฐ สามารถเข้าร่วมโครงการของเฟดเพื่อสนับสนุนด้านสภาพคล่องได้

- Advertisement -