หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จนทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี
ทำให้บรรดาวาณิชธนกิจรายใหญ่ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องดำเนินมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในปี 2565 เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ล่าสุด ทาง มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% รวม 6 ครั้งในปีนี้
รวมทั้งสิ้น 1.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายในเดือน มี.ค. ตามด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือน พ.ค., มิ.ย., และ ก.ค. และ จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในเดือน ก.ย. และ ธ.ค.
ขณะที่ JP Morgan ได้คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มากถึง 9 ครั้ง
โดยจะปรับขึ้นติดต่อกันในทุกการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้า
หากเป็นอย่างที่ JP Morgan คาดการณ์ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ กลับขึ้นไปสูงถึง 2.25% – 2.5% ภายในต้นปี 2566 ซึ่งถือเป็นมุมมองของการขึ้นดอกเบี้ยที่สูงที่สุด ในบรรดาเหล่าธนาคารยักษ์ใหญ่ที่ได้ออกมาคาดการณ์อยู่ในเวลานี้
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.