มีรายงานว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย ได้ขายเงินดอลลาร์ทิ้ง จากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ หรือ National Wealth Fund ทั้งหมดแล้ว และได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงิน ยูโร หยวน และ ทองคำ เข้ามาแทน
ทำให้ สัดส่วนเงินทุนในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย เป็นดังนี้
1. ยูโร 39.7% จากเดิม 35%
2. เงินหยวน 30.4% จาก 15%
3. ทองคำ 20.2%
4. เงินปอนด์ 5% ลดลงจากเดิมถืออยู่ 10%
5. เงินเยน 4.7%
ส่วนเงินดอลลาร์ ที่เคยมีอยู่ 35% หรือคิดเป็นเงิน 41,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะนี้ เหลือเป็น 0 % แล้ว
โดยมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน ณ วันที่ 1 กรกฎาคม มีจำนวน 13.57 ล้านล้านรูเบิล คิดเป็น 11.7% ของ GDP ที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2564
กระทรวงการคลังระบุว่า เงินหยวน และ เงินยูโร จะกลายเป็นทางเลือกแทนเงินดอลลาร์ และเป็นสกุลเงินของประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่างประเทศชั้นนำของรัสเซีย เช่นเดียวกับ “ทองคำ” ถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถปกป้องการลงทุนของ NWF จาก ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
ขณะที่ Andrei Belousov รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับการต่อต้านภัยคุกคามจากการคว่ำบาตร ของ สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลินกล่าวว่า กระบวนการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และ ไม่ได้เกิดขึ้นกับรัสเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเริ่มประสบกับความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของสกุลเงินหลักในทุนสำรอง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมกระทรวงการคลังได้เสร็จสิ้นการแปลงสภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกแยกออกจากโครงสร้างของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบุว่า กระทรวงการคลัง แปลงเงินในบัญชีของธนาคารกลาง เช่นเดียวกับเงินจากงบประมาณของรัฐบาลกลาง เป็นสกุลเงินต่างประเทศในมูลค่า 31.6 พันล้านรูเบิล เข้ากองทุนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม
อ้างอิง : rbc.ru
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.