นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาย้ำให้สภาคองเกรส ปรับเพิ่ม หรือ ยกเลิก เพดานหนี้ชั่วคราว โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หลังมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลัง ซึ่งจัดหาเงินทุนชั่วคราวให้กับรัฐบาลกลางนั้น มีแนวโน้มที่จะหมดลงในเดือน ต.ค. นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่สามารถชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
นอกจากนั้น เพื่อปกป้องศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เพราะที่ผ่านมา พบว่าเพดานหนี้มักจะมาถึงทางตัน และจะต้องรอจนนาทีสุดท้าย ก่อนที่จะมีการยกเลิก หรือปรับเพิ่มเพดานหนี้
ซึ่งอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อภาคธุรกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นปรับตัวสูงขึ้น สำหรับบรรดาผู้เสียภาษี และจะส่งผลกระทบในด้านลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ข้อกำหนดส่วนหนึ่ง ตามข้อตกลงด้านงบประมาณที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ทำไว้ร่วมกันในเดือน ส.ค.62 นั้น สภาคองเกรสได้ยกเลิกเพดานหนี้ชั่วคราว จนถึงวันที่ 31 ก.ค.64 และหลังจากที่เพดานหนี้ถูกกำหนดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 1 ส.ค. ปีนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็เริ่มใช้มาตรการพิเศษเพื่อจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ดี สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรส เตือนว่า สหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือน ต.ค. หรือ พ.ย. ปีนี้ หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานหนี้
สำหรับเพดานหนี้นั้น คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืม เพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.