หากใครที่ขับรถอยู่เป็นประจำ คงรับรู้ถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันได้อย่างชัดเจน
จากรูปหากดูที่ราคาแก๊ซโซฮอล์l 91 จากวันที่ 5 มกราคม 2565 มาถึง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 31.48/ลิตร สู่ระดับ 34.78/ต่อลิตร คิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
คิดแล้วก็ใจหาย จะไปเที่ยวต่างจังหวัด ถึงกับต้องคิดหนักเลยช่วงนี้ และที่สำคัญปีนี้เราอาจได้เห็นแก๊ซโซฮอล์ 91 ขึ้นไปมากกว่านี้อีก
มันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยววันนี้อินเตอร์โกลด์จะมาเล่าให้ฟัง
หากจะอธิบายกลไกการขึ้นหรือลงของราคาสินค้า ก็หนีไม่พ้นเรื่อง
Demand (ความต้องการสินค้า) และ Supply (กำลังการผลิตสินค้า) ของน้ำมันโลก ปัญหาตอนนี้ก็คือ Demand อยู่ในระดับสูง
เนื่องจากมาตรการ การเงินและการคลังของรัฐบาลทั่วโลก ทำให้ปริมาณเงินตราในระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นมาก เมื่อมีเงินเยอะ ประชาชนก็จะเอาเงินออกมาใช้กันเยอะ (ประชาชนในประเทศที่พิมพ์เงินได้) และเมื่อพอเริ่มกลับมาเปิดเมืองเงินในมือมันก็เลยออกมาใช้จ่ายกันอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน Supply ถูกกำหนดโดยธุรกิจน้ำมันต่าง ๆ ทั่วโลก ในช่วงโควิด 2 ปี ที่ผ่านมาได้ล้มหายปิดกิจการกันไปไม่น้อย
มาวันนี้ที่ราคาน้ำมันสูง โดยทั่วไปผู้ผลิตก็ต้องอยากเข้ามาขุดน้ำมันกันอยู่แล้ว เพราะกำไรมันสูง แต่ด้วยความที่ทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังผลักดัน Green energy หรือ พลังงานสะอาด นำโดยสหรัฐฯ ยุโรป และจีน
แน่นอนว่า เมื่อรัฐบาลพยายามผลักดันพลังงานสะอาด นโยบายต่าง ๆ จากรัฐ จึงลดความน่าสนใจในธุรกิจน้ำมันลงไป
ถึงแม้ว่ากำไรของธุรกิจน้ำมันจะสูงขึ้นก็ตาม และหากมองในแง่ว่าอนาคต เราจะใช้พลังงานสะอาดกันจริง ๆ แน่นอนว่าน้ำมันจะต้องราคาแพงมาก ๆ เพื่อให้คนหันมาใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น
อีกสาเหตุหนึ่ง คือ ความร้อนแรงทางการเมือง ระหว่าง รัสเซีย กับ ยูเครน
จะเห็นว่า รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของโลก และสหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 1 ของโลก การที่ 2 ประเทศนี้มี ท่าทีว่าอาจจะเกิดสงคราม ไม่ว่าสงครามจะเกิดหรือไม่ ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นแน่ ๆ คือ การค้าอาวุธ
ซึ่งทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ ก็ได้ประโยชน์ทั้งคู่ อีกอย่างคือ หากการสงครามขึ้นเพียงเล็กน้อย ราคาน้ำมันโลกจะพุ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งผู้ที่รู้ดีที่สุด ว่าจะเกิดสงครามหรือไม่ ก็คือรัสเซียและสหรัฐฯ เมื่อเค้ารู้ล่วงหน้าได้ นั่นหมายความว่าเค้าสามารถใช้เครื่องมือทางการเงินในการเก็งกำไรราคาน้ำมันได้อีก
ดังนั้น ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียนี้ ก่อเกิดผลประโยชน์ทางอ้อมให้ประเทศมหาอำนาจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งมีโอกาสผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ
จากทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวมานั้น อินเตอร์โกลด์ แนะนำว่า ปีนี้ เรามองว่าน้ำมันจะแพงขึ้นไปอีก
ส่งผลให้สินค้าและบริการต่าง ๆ จะแพงขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจอาจถดถอยได้ เพราะราคาสินค้าขึ้นเร็วเกินไป จะทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจการซื้อน้อยลง ใครที่ลงทุนในหุ้น ให้เน้นไปที่ธุรกิจที่เป็นปัจจัย 4 พวก อาหาร และ ยา เพราะไม่ว่าอย่างไร คนก็ต้องกิน ต้องเจ็บ ต้องป่วย ถือเป็นธุรกิจแนวตั้งรับ
หากใครรับความเสี่ยงในหุ้นไม่ไหว ก็แนะนำว่า “ทองคำ” ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการฝากเงินในธนาคารแน่นอนในปีนี้ เนื่องจากผลตอบแทนจากแบงค์ จะไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อในปีนี้ได้เลย
เรื่องโดย: เทรดเดอร์ อินเตอร์โกลด์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.