- Advertisement -

หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ขยับแรงติดต่อกัน โดยที่วานนี้ราคา gold spot ได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนบริเวณ 1,877 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกเทร่วงหลุด 1,850 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายในวันนี้ ราคาได้กลับมาเคลื่อนไหวแนว 1,860 ดอลลาร์ อีกครั้ง

“แม้ว่าข่าวร้ายสำหรับทองคำจะหมดไป ทั้งเรื่องการลด QE หรือ การขึ้นดอกเบี้ย แต่การที่ราคาทองคำจะวิ่งฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,875 ดอลลาร์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจุดนี้เคยเป็นทั้งแนวต้านและแนวรับ และที่ผ่านมา ราคาได้มาทดสอบทั้ง 2 ฝั่งหลายครั้ง ทำให้เป็นจุดที่แข็งพอสมควร หากราคาทองไม่สามารถผ่านไปได้ ก็อาจจะปรับตัวลงเพื่อไปสร้างฐานราคาอีกระยะ ก่อนจะดีดตัวกลับมาอีกรอบ และหากราคาลงไปถึงแนว 1,830 ดอลลาร์ ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าซื้อทองคำสะสม” คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าว กับ GoldAround.com

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะพุ่งผ่าน 1,875 ดอลลาร์ เลย หากมีปัจจัยใหม่ ๆ มาหนุน และ เป้าหมายต่อไป คือ 1,915 ดอลลาร์ แต่คาดว่าไม่น่าจะไปถึงระดับ 2,000 ดอลลาร์ ในปีนี้ แต่หากสถานการณ์เรื่องเงินเฟ้อยังไม่ดีขึ้น มองว่าไตรมาสแรกปีหน้าอาจจะได้เห็นราคาไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ หรืออาจจะเห็น new high ได้ แต่ประเด็นที่น่าจับตามอง และอาจจะเป็นปัจจัยที่จะมาสกัดทองคำ ก็คือ ตลาดคริปโตฯ ที่ขยายตัวเรื่อย ๆ ซึ่งอาจจะดึงความน่าสนใจจากทองคำไป

ส่วนราคาทองคำในประเทศ แม้ว่าราคา gold spot จะพุ่งต่อเนื่อง แต่ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นมามากเช่นกัน จึงทำให้ราคายังไม่ถึง 29,000 บาท

ดังนั้น การพักตัวของ gold spot ในรอบนี้ อาจจะทำให้ราคาทองในประเทศย่อตัวลงไประดับ 28,000 บาท ก็ถือเป็นช่วงราคาที่น่าซื้อเก็บสะสมเช่นกัน เพราะในอนาคตหากราคา gold spot พุ่งไปเหนือ 1,920 ดอลลาร์ หรือ แตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ ได้ อาจจะเห็นราคาทองคำไทยแตะแนว 29,000-29,500 บาท หรือ มากกว่านั้น ซึ่งจะต้องดูสถานการณ์ค่าเงินบาทประกอบด้วย

- Advertisement -

“ตอนนี้ตลาดให้ความสำคัญในเรื่องของเงินเฟ้อ ที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติในรอบหลายสิบปี ทำให้เรียลยีลด์ติดลบต่ำมาก และเป็นปัจจัยหนุนโดยตรงต่อราคาทองคำ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกก็มองว่า ปัจจุบันเงินเฟ้อสูงมากและเป็นของจริง ทำให้เฟดต้องใช้นโยบายดึงเงินกลับ เพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ทั้งการเริ่มลด QE ปีนี้ และเตรียมขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า

แต่ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจได้เป็น Stagflation คือ เงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่ดี จึงทำให้นักเศรษฐศาสตร์มองว่า เฟด อาจจะลดดอกเบี้ยเพียงระยะสั้น ๆ ก่อนที่จะทำ QE และลดดอกเบี้ยอีกรอบ เพื่อเป็นการนำหนี้ใหม่มากลบหนี้เก่า เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ มันเกินจะแก้ไข และรอเวลาที่ปัญหาจะระเบิดออกมาจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบปริมาณมหาศาล ทำให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรง ซึ่งองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลดีต่อทองคำ “ คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าว

- Advertisement -