ผ่านพ้นช่วงกลางเดือน ม.ค. 2565 ไปอย่างรวดเร็ว ภาพรวมตลาดทองคำ ถือว่าทำได้ดี ราคาสามารถขึ้นมายืนเหนือ 1,820 ดอลลาร์ได้
มาดูมุมมองของ David Erfle นักวิเคราะห์จาก kitco.com ถึงตลาดทองคำในปีนี้ โดยเจ้าตัวได้ให้หลายเหตุผล ที่จะทำให้ราคาทองคำทะยานเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ในปีนี้
เริ่มจากอัตราเงินเฟ้อ
ที่เป็นปัญหามากขึ้น และต่อเนื่องมากกว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
ตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
ที่คาดว่าจะติดลบอย่างมาก เพราะอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ ซึ่งเป็นสัญญาณการซื้อที่แข็งแกร่งสำหรับนักลงทุนทองคำ
ขณะที่การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้ง ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปี 2565 ได้ถูกตลาดรับข่าวไปหมดแล้ว
ขณะที่ เฟด ฟิวเจอร์ส ได้ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงถึง 81% ที่จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มีนาคม ข่าวเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก ที่สำคัญเฟดมีข้อจำกัดอย่างมากในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมียอดหนี้สาธารณะสูงมาก การขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบโดยตรง
ประเด็นต่อมาคือ ความกลัวในปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะโยงมาถึงสหรัฐฯ
ไม่วาจะเป็นสงครามระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ จีน และไต้หวัน ความตึงเครียดระหว่างนาโต้ สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกากับรัสเซียเกี่ยวกับยูเครน ปัญหาบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย ซึ่งอินเดียกำลังเร่งก่อสร้างอุโมงค์และถนนสายใหม่หลายชุด และล่าสุด ความวุ่นวายในคาซัคสถาน เศรษฐกิจโลกเริ่มกระเตื้องขึ้น
David Erfle ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจตึงตัวครั้งสุดท้ายระหว่างปลายปี 2558 ถึง 2562 เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 9 ครั้ง และราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 35% และระหว่างปี 2547 ถึง 2548 ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ย 17 เท่า และราคาทองคำพุ่งขึ้น 70%
นอกจากนี้ ในปี 1970 อัตราเปลี่ยนจาก 4.75% ในปี 1976 เป็นสูงสุดที่ 20% ในปี 1980 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทองคำปรับตัวขึ้นจาก 185 ดอลลาร์ เป็น 850 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ขณะที่ ความต้องการทองคำด้านกายภาพที่อินเดียและจีน
ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีการบริโภคทองคำมากที่สุด ก็ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยความต้องการของอินเดียเพียงอย่างเดียวในปี 2564 มากกว่า 500 ตัน มากกว่าในปี 2563 ซึ่งมากเกินพอที่จะรองรับอุปทานของเหมืองในปัจจุบัน
ส่วนการซื้อสุทธิของทองคำแท่งโดยธนาคารกลางมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งธนาคารกลางของสิงคโปร์ และของไอร์แลนด์ ซื้อทองคำเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
นี่เป็นเพียงเหตุผลบางส่วนที่ David Erfle ได้นำเสนอ แต่ก็พอจะทำให้ได้เห็นถึงปัจจัยหนุนของราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้องและจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 และยังมีเรื่องการเมืองในประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ และ จีน ที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้นำคนปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างผลงาน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนนโยบายในด้านต่าง ๆ ให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.