หลังจากที่เมื่อคืนนี้ ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังมีมติคงนโยบายเดิม ทั้งเรื่องของการทำ QE และ คงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ราคาทองคำได้กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับในช่วงเช้าที่ผ่านมา “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอแผนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของอเมริกา และ “American Families Plan“ ซึ่งจะต้องใช้เงินอีกหลายล้านล้านดอลลาร์
ดร.พิบูลฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ มองว่า จากทั้ง 2 กรณี น่าจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ เพราะเมื่อทาง “โจ ไบเดน” ยังประกาศอัดฉีดเม็ดเงินอีกปริมาณมหาศาล เพื่อเป็นการฟื้นฟูประเทศ หลังจากที่ได้รับความบอบช้ำมาจากการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 และ เฟด ยังยืนว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ต่อเดือน ย่อมส่งผลดีต่อราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,760-1,800 ดอลลาร์ โดยทั้งแนวรับและแนวต้านทั้ง 2 ฝั่ง ยังคงแข็งแรง เมื่อราคาวิ่งไปชน 1,800 ดอลลาร์ หรือ ก่อนหน้านั้นก็มีแรงขาย ขณะที่เมื่อร่วงไปใกล้ถึง 1,760 ดอลลาร์ ก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัว sideways แต่ในภาพรวมยังมองว่าสถานการณ์ของราคาทองคำยังดูดี จนกว่าเฟดจะประกาศลดปริมาณการทำ QE ลง ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อราคาทองคำ
มาดูเรื่องปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ หลักก็คือเรื่องการคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ตราบใดที่เฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ยังเป็นผลดีต่อราคาทองคำ และเชื่อว่าเฟดน่าจะคงนโยบายนี้ไปอีกระยะ เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่เป็นไปตามเป้า ประกอบกับการประกาศอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐบาลผ่านมาตรการต่าง ๆ ยิ่งทำให้เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ
สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ก็คือเรื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะถือเป็นตัวที่ฉุดราคาทองคำ และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บอนด์ยีลด์ได้ปรับขึ้นมามากแล้ว นอกจากนั้นก็มีเรื่องค่าเงินบาท ที่ได้ปรับตัวแข็งค่ามากถึง 40 สตางค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศโดยตรง หลังจากช่วงที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าได้หนุนราคาทองอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลยทธ์การลงทุนทองคำ ยังคงเดินตามแนวเดิม คือเมื่อราคาลดลงให้เข้าซื้อ และเมื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นให้ขายออกทำกำไร ซึ่งในช่วงนี้อาจจะต้องเน้นเรื่องของเทคนิคการเคลื่อนไหวของราคา มากกว่าสถานการณ์ทั่วไป โดยกรอบราคา แนวรับหลักยังอยู่ที่ 1,760 และ 1,720 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งได้พยายามขึ้นมาทดสอบหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ โดยหากราคาสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็มองแนวต้านถัดไปที่ 1,820 ดอลลาร์ และอาจมีลุ้นที่จะได้เห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ได้
รับชมคลิป
ขอขอบคุณ ศูนย์วิจัยทองคำ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.