- Advertisement -

ทองคำยังแรงไม่หยุด ปิดบวก 5 สัปดาห์ติดต่อกัน

นักวิเคราะห์ชี้หากทะลุ $1,950 อาจเห็น $2,000 ก่อนไตรมาส 2

ภาพรวมราคา gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 ม.ค.) พุ่งแตะจุดสูงสุด 1,937ดอลลาร์

เมื่อวันศุกร์ราคาได้แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ก่อนจะถูกเทขายในช่วงท้ายตลาด มาปิดตลาด 1,926 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ เป็นการเพิ่มขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน หากนับตั้งแต่ต้นปี ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 5%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากต่างประเทศมองว่า หลังจากที่ราคาได้พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะขณะนี้ได้ใน time fame week และ day ได้เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไปแล้ว

- Advertisement -

รับชมคลิป

ซึ่ง Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวกับ Kitco News ว่า

แนวโน้มโดยรวมของทองคำยังคงเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวนจนกระทั่งเสร็จสิ้นการประชุมของเฟด ในวันที่ 1 ก.พ. โดยราคาทองคำจะสร้างฐานแถว 1,950 ดอลลาร์ มีแนวต้านหลักอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์

Edward Moya มองว่า ตลาดมั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.25% ในวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยจัมโบ้เรต ระดับ 0.75 % ครั้งสุดท้าย ในการประชุมเดือน พ.ย. ก่อนจะลดเหลือ 0.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

ขณะที่ Frank Cholly นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures มองว่า

- Advertisement -

ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มีการเห็นจุดสูงสุดที่สูงขึ้น จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น และปิดที่สูงขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ดี และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มลดลง

Frank Cholly กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมาย $2,000 อาจจะมีปัญหาเล็กน้อย ในช่วงที่ราคาจะก้าวข้ามผ่านระกับ 1,950 ดอลลาร์ แต่หากผ่านไปได้ ยังเชื่อว่าจะไปถึง 2,000 ดอลลาร์ ได้อย่างง่ายดาย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็เป็นได้

ไปดูประเด็นที่ต้องจับตาในสัปดาห์หน้า 23-27 ม.ค. จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญหลายอย่าง เริ่มจากในวันพุธ จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา ข้อมูลภาคการผลิตและบริการออกมาไม่สู้ดี และตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวแค่ 2.6% หลังจากที่ไตรมาส 3 เติบโต 3.2%

ขณะที่ วันพฤหัสจะมีการเผยตัวเลขดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures) หรือ PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดที่เฟดให้ความสำคัญมากกว่าดัชนีเงินเฟ้อตัวอื่น ๆ เนื่องจาก PCE ครอบคลุมการใช้จ่ายของภาคครัวเรือมากกว่า

ซึ่งจะต่างจาก ดัชนี CPI (Consumer price index) ที่จะทราบได้ว่า ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินไปกับอะไร และปริมาณเท่าไหร่

ขณะที่ PCE จะทราบได้รายละเอียดได้มากกว่านั้น ซึ่งรวมถึงสินค้าและบริการที่ถูกซื้อโดยผู้ประกอบการหรือรัฐบาล

โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคา PCE หลักเดือน ธ.ค. จะชะลอตัวลงเหลือ 4.4% จากระดับ 4.7% ในเดือน พ.ย.

ทำให้ James Knightley หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของ ING กล่าวว่า

ตัวเลข PEC ที่ลดลง จะยืนยันถึงแนวโน้มการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และหากตัวเลข PEC ออกมาตามที่คาดการณ์ คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 1 ก.พ.

ไปดูราคาทองคำไทย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์ 16-20 ม.ค.

สมาคมค้าทองคำ ได้ปรับราคา ขึ้น-ลง รวม 18 ครั้ง ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ราคาปิดตลาดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ราคาขายออก 29,850 บาท ราคารับซื้อ 29,750 บาท

ขอให้ทุกท่านโชดดีในการเทรด

ทีมงาน GoldAround

- Advertisement -