- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 1 (+0) 09:33

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 2 (-50) 11:34

- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 3 (-50) 11:52

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 4 (-50) 11:57

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 5 (+50) 12:04

- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 6 (+50) 12:21

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 7 (-50) 12:59

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 8 (+50) 13:53

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 9 (-50) 14:35

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 10 (+100) 15:52

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 11 (-50) 16:58

ภาพรวมการเคลื่อนไหวราคาทองคำ

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ เคลื่อนไหวรุนแรงมาก โดยมีช่องว่างระหว่างจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดเกือบ 90 ดอลลาร์ โดยในช่วงการซื้อขายในช่วงเช้าที่ตลาดเอเชีย ราคาได้ปรับลดลงไปแตะระดับ 1,862 ดอลลาร์ หลังจากที่คืนก่อนหน้านี้ ราคาได้ลดลงมาแตะระดับ 1,901 ดอลลาร์ ลดลงถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่ในช่วงการซื้อขายระหว่างวันราคาจะดีดกลับมาทำจุดสูงสุดที่ 1,949 ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ 1921 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12.74 ดอลลาร์

ส่งผลให้เมื่อวานนี้ สมาคมค้าทองคำได้มีการประกาศปรับราคาซื้อขายทองคำในประเทศถึง 42 ครั้ง มากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในช่วงเช้าราคาได้ปรับลดลงจากวันก่อนหน้านี้บาทละ 1,400 บาท ก่อนที่จะปิดตลาดปรับลดลงเหลือเพียง 850 บาท

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาทองคำ คือ กรณีที่รัสเซียประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส โควิด-19 ที่ชื่อ “Sputnik” ขณะที่ปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำดีดกลับมา คือ เงินดอลลาร์อ่อนค่าจากความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์

ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก โดยเช้านี้ขายอีก 7.3 ตัน ที่ระดับราคา 1,911 ดอลลาร์ ทำให้เหลือถือครอง 1,250.63 ตัน แต่เมื่อมองภาพรวมปีนี้ กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำเพิ่ม 357.38 ตัน

สำหรับคืนนี้ สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 1.12 ล้านราย ซึ่งตัวเลขยังมากกว่า 1 ล้านราย ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 21 นอกจากนี้ ติดตามการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาว เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามขยายระยะเวลาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. โดยสภาคองเกรสยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ

กลยุทธ์การลงทุนทองคำวันนี้

แนวต้าน 1,943 ดอลลาร์ 1,965 ดอลลาร์ และ 1,998-2,002 ดอลลาร์
แนวรับ 1,889-87 ดอลลาร์ 1,848 ดอลลาร์ และ 1,784-82 ดอลลาร์

ราคาทองคำไทย 96.5%
แนวต้าน บาทละ 28,640 บาท 29,280 บาท และ 29,765 บาท
แนวรับ บาทละ 28,235 บาท 27,885 บาท และ 27,010 บาท

เมื่อวานนี้เกิดสัญญาณชะลอเทรนด์จากแท่งเทียนในราคาปิด วันนี้ทองจึงทำ Technical Rebound อยู่ที่ระดับ 1,940 ดอลลาร์ จะไล่ราคาตรงนี้ก็ต้องมาวัดใจกับแนวต้าน 1,947 ดอลลาร์ อีก ซึ่งหากไม่ผ่านก็อาจจะต้องขยับแนวรับลงมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

ฉะนั้น เมื่อราคามาถึงระดับนี้ทำได้เพียงดูว่าระดับ 1,947 ดอลลาร์ จะ break ได้หรือไม่ หาก break ได้แนะนำ follow buy ตั้ง stop loss ที่ระดับ 1,942 ดอลลาร์ ซึ่งหากยังไม่สามารถ break ได้ จะถอยมาตั้งรับที่ระดับ 1,889-1,887 ดอลลาร์ แทนโดยตั้ง stop loss ที่ระดับ 1,872 ดอลลาร์ กรณีไม่ break สำหรับย่อ open long ปกติ ตั้ง stop loss ที่ระดับ 1,872 ดอลลาร์

แนวรับ 1,906 ดอลลาร์ 1,884 ดอลลาร์ และ 1,862 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,949 ดอลลาร์ 1,971 ดอลลาร์ และ 1,988 ดอลลาร์

หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,949 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดวานนี้ และแนวต้านโซน 1,971 ดอลลาร์ แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ ยังคงต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากช่วงราคามีการแกว่งตัวผันผวน และการเหวี่ยงตัวของราคาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีหลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,906-1,884 ดอลลาร์

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้านบริเวณ 1,949-1,971 ดอลลาร์ แนะนำแบ่งทองคำออกขายเพื่อรอซื้อในโซนแนวรับ 1,906-1,884 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,963 ดอลลาร์ 1,970 ดอลลาร์ และ 1,977 ดอลลาร์
แนวรับ 1,916 ดอลลาร์ 1,895 – ดอลลาร์ และ 1,883 ดอลลาร์

ราคาทองคำมีสัญญาณดีดตัว หลังจากโดนขายทำกำไรอย่างหนักเมื่อคืนวันก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวล เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาว และสภาคองเกรส เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

กลยุทธ์วันนี้ รอซื้อที่ระดับ 1,916 ดอลลาร์ ทำกำไรที่ 1,963 ดอลลาร์ มีจุด stop loss 1,880 ดอลลาร์

แนวรับ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,860 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และ1,980 ดอลลาร์

แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว ทั้งนี้ ยังจับตาแรงเทขายจากกองทุน SPDR ที่มีนัยสำคัญทางลบต่อราคาทองคำ

ส่วนทิศทางเงินบาทในวันนี้ คาดแข็งค่าขึ้น โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาว และสภาคองเกรส เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่ง USD Futures เดือน ก.ย.63 คาดจะมีแนวรับที่ 31.0 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.20 บาท ต่อดอลลาร์

จุดซื้อ 1,930 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 28,350 บาท
จุดขาย 1,955 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 28,550 บาท

- Advertisement -