Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

วิเคราะห์ราคาทองคำ 26 พ.ค.64(YLG)

- Advertisement -

226

- Advertisement -

คำแนะนำ :

เปิดสถานะซื้อบริเวณแนวรับ 1,887-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุด 1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุน และหากราคายังไม่ผ่านโซน 1,906-1,918 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร เน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะหลายวัน

แนวรับ : 1,877 1,870 1,859  แนวต้าน : 1,918 1,934 1,946

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 19.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน  ทั้งนี้ ราคาทองคำทะยานขึ้นแรงหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่เกินคาด  อาทิ  ยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 863,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.  และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐของ Conference Board ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 117.2 ในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน  สถานการณ์ดังกล่าว “บั่นทอน”  การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้  จนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดด้วยการอ่อนค่าลง 0.2% หลังจากแตะระดับต่ำสุดที่  89.535 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.  ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1.6% ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ประกอบกับวานนี้ความต้องการในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง  โดย Bid coverage ratio ที่เป็นมาตรวัดความต้องการครั้งนี้อยู่ที่ 2.47 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย และเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.339 ในเดือนเม.ย.และสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2020 จึงเป็นปัจจัยกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่ม  ซึ่งยิ่งหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม  ปัจจัยที่ดังกล่าวหนุนราคาทองคำให้พุ่งขึ้นผ่านระดับสูงสุดเดิมที่ 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์พร้อม Breakout กรอบสามเหลี่ยมจนกระตุ้นแรงซื้อทางเทคนิคเพิ่มเติม  นั่นทำให้ราคาทองคำพุ่งแตะ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนครึ่ง  และปรับตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย  ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต่ำกว่าคาดในพ.ค.  ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 117.2 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 117.5 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.2
  • (+) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 5.9% สู่ระดับ 863,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 970,000 ยูนิต  ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับลดยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.สู่ระดับ 917,000 ยูนิต จากเดิมรายงานที่ระดับ 1.021 ล้านยูนิต
  • (+) ประธานเฟดชิคาโกไม่วิตกเงินเฟ้อ เดินหน้าหนุนนโยบายผ่อนคลายการเงิน  นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อก่อนหน้านี้จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทะยานขึ้นแบบไม่พึงประสงค์ตามที่นักวิเคราะห์หลายคนได้เคยเตือนไว้  นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังกล่าวย้ำว่า เขาสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟด
  •  (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 81.52 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.ซบเซา  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,312.46 จุด ลดลง 81.52 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,188.13 จุด ลดลง 8.92 จุด หรือ -0.21% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,657.17 จุด ลดลง 4.00 จุด หรือ -0.03%
  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.6% นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงด้วย  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะที่ 89.6437 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.71 เยน จากระดับ 108.78 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8951 ฟรังก์ จากระดับ 0.8968 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2060 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2046 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2253 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2213 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4148 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4158 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7755 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) “เอสแอนด์พี” เผยราคาบ้านสหรัฐพุ่งขึ้น 13.2% ในเดือนมี.ค.  ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 13.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2548 และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 หลังจากเพิ่มขึ้น 12% ในเดือนก.พ.
  • (-) ทำเนียบเครมลินยืนยัน “ไบเดน VS ปูติน” ประชุมซัมมิต 16 มิ.ย.  ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ยืนยันการจัดประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 16 มิ.ย.  “เรามีความประสงค์ที่จะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐ รวมทั้งประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ” แถลงการณ์ระบุ
  • (-) “โมเดอร์นา” เผยวัคซีนบริษัทมีประสิทธิภาพ 100% ป้องกันโควิดสำหรับวัยรุ่น  บริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี  โมเดอร์นาระบุว่า ผลการทดลองพบว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 100% หากวัยรุ่นได้รับการฉีด 2 โดส แต่หากฉีด 1 โดส จะมีประสิทธิภาพ 93%  โมเดอร์นานับเป็นบริษัทแห่งที่ 2 ต่อจากไฟเซอร์ที่ประกาศว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับวัยรุ่น

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More