Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ลุ้นราคาทองคำจะดีดแรงตามเงินเฟ้อหรือไม่.. สัปดาห์นี้เกาะติด “FED” ผนวก ตัวเลข ศก.สหรัฐฯ

- Advertisement -

321

- Advertisement -

หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขดัชนี Core PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ โดยในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้นเกินคาดเช่นกันถึง 3.1% สะท้อนว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ( อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ) แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า เมื่อตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่คาด เหตุใดราคาทองคำถึงขยับไปไม่ไกล

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่าหลังจากที่มีการประกาศตัวเลขดังกล่าวออกมา มีแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบกับตลาดไม่ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนจาก Eurodollar futures ที่สิ้นสุดอายุในเดือน ธ.ค. 2022 และ มี.ค. 2023 ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1.6% อีกครั้ง

สถานการณ์ทั้งหมดข้างต้น หนุนราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาทะยานขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ จากระดับต่ำสุดในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์บริเวณ 1,882 ดอลลาร์ กลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 1,900  ดอลลาร์ ต่อออนซ์ อีกครั้ง แต่จะเห็นว่า ราคาทองคำไม่ได้พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.06% และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG
คุณ ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG

“ที่สำคัญนักลงทุนบางส่วนยังไม่แน่ใจนักว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยชั่วคราวเท่านั้นหรือไม่ ขณะที่เริ่มมีการคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดอาจเริ่มหารือเกี่ยวกับการลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือนตามมาตรการ QE ในการประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้  จึงยังคงระมัดระวังในการไล่ซื้อทองคำ เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านทางถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินรอบถัดไปในช่วงกลางเดือน มิ.ย.” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

- Advertisement -

เมื่อมามองในแง่ปัจจัยทางเทคนิค บ่งชี้ว่าทองคำอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป โดยกราฟเทคนิคใน TF Daily อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป  ประกอบกับราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาค่อนข้างมาก โดยทะยานขึ้นกว่า 200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับต่ำสุดในเดือน มี.ค. บริเวณ 1,678 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการไล่ซื้อทองคำ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนใช้โอกาสนี้ในการขายทำกำไรออกเพื่อลดความเสี่ยง จึงชะลอความร้อนแรงของทองคำ

ส่วนราคาทองคำจะขยับขึ้นไปแตะ 1,950 หรือ 2,000 ดอลลาร์ ในไตรมาส 2 หรือไม่ นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG มองว่าราคาทองคำในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. มีการยกระดับต่ำสุด และ ระดับสูงสุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นได้มากขึ้นที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับดังกล่าว หากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเดือน มิ.ย. ยังสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากเดือนก่อนหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะจะทำให้แนวโน้มราคาจะเป็นบวกชัดเจนมากขึ้น

“ทั้งนี้ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านแรกโซน 1,899-1,906 ดอลลาร์ ได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,959 ดอลลาร์ (ระดับสูงสุดของเดือน ม.ค. และเป็นระดับสูงสุดของปี 2021) ซึ่งการทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ของปีนี้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง จึงอาจเกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ แต่หากแรงขายไม่มาก และราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ ยังทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวในทิศทางค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ที่สำคัญจะต้องติดตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด หากเฟดยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ ด้วยการไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และเดินหน้าเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE ต่อไปโดยไม่ลดวงเงิน QE รายเดือน จะยิ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นบวกต่อราคาทองคำ

- Advertisement -

ในทางกลับกันหากการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. มีการส่งสัญญาณเตรียมลดวงเงิน QE รายเดือน หรือ ส่งสัญญาณในเชิงเตรียมจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำเช่นกัน ดังนั้น ถึงแม้มุมมองเชิงเทคนิคในระยะยาวจะยังเป็นบวก แต่ต้องติดตามปัจจัยพื้นฐานประกอบการลงทุนอย่างใกล้ชิด

ขอบคุณข้อมูล : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More