ร้านค้าทองคำ จ.ระยอง ชี้ โควิด-19 รอบ 3 ฉุดยอดขายวูบ แต่มั่นใจในศักยภาพพื้นที่ว่าจะฟื้นตัวกลับมาเร็ว
การแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด -19 ประเทศ ยังคงน่าเป็นห่วง โดยยอดผู้ติดเชื้อในวันนี้ (27 พ.ค.) ยังสูงถึง 3,323 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 112,354 ราย และวันนี้เสียชีวิตมากถึง 47 ราย และแนวโน้มการแพร่ระบาดยังคงขยายวงกว้างต่อเนื่อง และได้สร้างความเสียหายให้กับทุกธุรกิจ
ดร.สมชาย โตศุกลวรรณ์ ประธานชมรมร้านทองจังหวัดระยอง กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ธุรกิจค้าทองคำ เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะจะต่อเชื่อมกับรายได้ของประชาชน ทั้งนี้ การแพร่ระบาดในรอบแรก และ รอบที่ 2 ถือว่าสร้างความเสียหายหนักแล้ว แต่ประชาชนยังมีทองคำมาซื้อขายแลกเปลี่ยน รวมถึงขายฝาก แต่การแพร่ระบาดในรอบใหม่นี้ ถือว่าหนักกว่า
โดยในพื้นที่ ยอดการซื้อขายแลกเปลี่ยนหายไปกว่า 60 % แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ การขายฝาก พบว่าในรอบนี้ลูกค้าได้เปลี่ยนจากขายฝากเป็นขายขาด เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเชื่อว่าคงจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าที่กำลังซื้อจะกลับมา
ดร.สมชายฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการระบาดรอบ 3 พื้นที่จ.ระยอง จะไม่มีชื่อเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดเหมือน 2 รอบแรก แต่ก็ถูกจัดให้เป็นพื้นที่เสี่ยง
ขณะเดียวกัน ห่วงโซ่การผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ ทำให้โรงงานหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว บางแห่งก็หยุดกิจการไป ทำให้รายได้จากภาคอุสาหกรรมลดลงไปมาก
ขณะที่รายได้จากเกษตรกรที่ทำสวนผลไม้ แม้ว่าปีนี้ทุเรียนจะได้ผลผลิตดี แต่กำลังซื้อของประชาชนลดลง ประกอบกับเรื่องของการท่องเที่ยวในพื้นที่ยังมีปัญหา ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวได้ลดลงอย่างมาก และส่งผลต่อเกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
สุดท้ายก็ได้ส่งผลกระทบมายังผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ซึ่งบรรดาผู้ประกอบกอบการต่างต้องหาวิธีการที่จะประคองให้ธุรกิจผ่านพ้นในช่วงนี้ไปให้ได้
“แม้ว่าวิกฤตรอบนี้จะกินระยะเวลามาเนิ่นนาน และยังต้องใช้เวลาในการเยียวยา และฟื้นฟูอีกหลายเดือน อาจจะถึงปี ทุกอย่างจึงจะกลับมา แต่ทั้งนี้ สิ่งที่อยากจะเห็นก็คือ การร่วมมือร่วมใจของประชาชนในการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันไวรัส โควิด-19 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นทางออกของปัญหานี้ และอยากให้ความร่วมมือกับภาครัฐฯ ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้ทุกคนได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติโดยเร็ว” ประธานชมรมร้านทองจังหวัดระยอง กล่าวกับ GoldAround.com
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในภาพรวมดีขึ้น พื้นที่จังหวัดระยองจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
และมีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง มีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก และใช้แรงงานในทุกระดับ ที่สำคัญ ในอนาคตมีการพัฒนาพื้นที่ในหลายส่วน เพื่อต่อเชื่อมและรองรับ EEC ซึ่งถือเป็นโครงการหลักสำคัญของชาติ
นอกจากนั้นยังมีรายจากภาคการเกษตร ทั้งพืชไร่พืชสวน ซึ่งจังหวัดระยองเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้สำคัญ โดยเฉพาะทุเรียน นอกจากนั้น ยังมีความพร้อมเรื่องของการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทะเล ภูเขา หรือ การพักแบบโฮมสเตย์ ตามสวนผลไม้ต่าง ๆ รวมถึงยังมีอุตสาหกรรมประมง ทำให้มั่นใจว่า จะเป็นพื้นที่ในลำดับต้นที่มีการฟื้นตัวเร็ว แต่หลังจากนี้ ก็จะต้องมีการวางระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
Comments are closed.