ราคาทองยังพุ่งไม่หยุด เหตุค่าเงินบาทอ่อนค่า ผนวกราคาทองตลาดโลกขยับขึ้นต่อเนื่อง ทำสถิติสูงสุด ในรอบ 7 ปี เนื่องจากนักลงทุนกังวลผลกระทบ ไวรัสโควิด -19 จับตาค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าอีก ดันราคาทองขยับเพิ่มบาทละ 150 บาท
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวถึงการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำวันนี้ (21 ก.พ.) ที่ในช่วงเช้าเพิ่มขึ้นแรงถึงบาทละ 400 บาท โดยทองคำแท่งขณะนี้ราคารับซื้ออยู่บาทละ 24,200 บาท ราคาขายออกอยู่ที่ 24,300 บาท ทองรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 23,770.88 บาท ขณะที่ราคาขายออกอยู่ที่ 24,800 บาท มาจาก 2 ส่วนคือเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงโดยขณะนี้มาอยู่ที่ระดับ 31.66 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงกว่า 1% จากเมื่อวานนี้ที่อยู่ในระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงุทนต่างชาติได้เทขาย และหันมาเก็บทองคำมากขึ้น
อีกปัจจัยมาจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ในระดับ 1,625 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้กว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากแรงกังวลของนักลงทุนในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก จึงหันมาซื้อทองคำมากขึ้น
นายวรชัยฯ กล่าวถึงการลงทุนในวันนี้ให้จับตาราคาทองคำที่แนวต้าน 1,630 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นหลัก หากทะลุผ่านไปได้แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยปัจจัยที่น่าจับตามองเป็นพิเศษก็คือเรื่องของค่าเงินบาท ซึ่งในด้านเทคนิคแล้วมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงได้อีกประมาณ 20 สตางค์ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอีกประมาณบาท 150 บาท
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุนในช่วงนี้ยังเน้นลงทุนระยะสั้น โดยที่ระดับราคา 1,630 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นักลงทุนก็สามารถเทขายบางส่วนออกมาทำกำไรได้ แม้ว่าแนวโน้มราคาจะยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นก็ตาม แต่หากจะซื้อเข้าอยากจะให้รอที่ระดับราคา 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะหากจะเข้าซื้อช่วงนี้มองว่าเป็นราคาที่สูงเกินไปแล้ว หากที่จะถือระยะยาวโอกาสที่ราคาจะผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้เหนือความคาดหมายไปมากจากเดิมที่มองว่าทั้งปีจะทำ New High ที่ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ยังไม่พ้นไตรมาสแรก ราคาทองคำก็ขยับขึ้นมาแตะ 1,620ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แล้ว และขณะนี้หลายฝ่ายก็มองกันไปที่ระดับราคา 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ยังต้องมาดูแนวต้านสำคัญที่สุดก็คือ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ว่าจะสามารถทะลุผ่านไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้โอกาสที่จะเห็น 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็มีสูง แต่ถ้าหากไม่ผ่านเองก็ต้องมารอดูว่าทองจะไปพักฐานที่ระดับราคาใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด