ราคาทองคำ ฟื้นตัวกลับมาได้ แต่ยังวิ่งไม่ผ่าน $1,865 ดอลลาร์ ก่อนจะพยายามเลี้ยงตัวแนว 1,850 ดอลลาร์
ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสจะไปได้ทั้ง 2 ฝั่ง คาดราคาจะ sideway เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ กลับมาบวก 100 บาท
ราคาทองคำวานนี้ ปิดที่ระดับ 1,851 ดอลลาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ แม้ในช่วงเช้าราคาทองคำจะร่วงลงไปแตะ 1,836 ดอลลาร์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะ 3.064% สูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า
ก่อนจะมาฟื้นตัวในช่วงเย็น จากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ลดลงสู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 4.1% เนื่องจากผลกระทบจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ได้ซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งความเสี่ยงของการเกิดภาวะ stagflation
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินเสี่ยง โดยเฉพาะดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่ได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 0.85% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อเงินปอนด์ หลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษ รอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยมอีกด้วย
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงลงจากระดับสูงสุดเช่นกัน ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,855 ดอลลาร์
ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้า ราคาได้ปรับลดลงมาเคลื่อนไหวใต้แนว 1,850 ดอลลาร์ แต่ยังขยับไปไม่ไกลมากนัก
ด้าน YLG มองว่า
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,857 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้ หลังจากราคาฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น จึงมีแรงขายออกมา อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,836-1,827 ดอลลาร์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง
กลยุทธ์วันนี้ : เปิดสถานะซื้อ 1,839-1,827 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่ 1,857-1,863 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,827 ดอลลาร์
ขณะที่ Shining Gold มองว่า
ปัจจัยบวก ยังคงมีเข้ามาปะปลาย ทั้ง world Bank ออกมาปรับลดประมาณการ GDP โลก พร้อม เตือน ความเสี่ยง Stagflation ขณะที่ Goldman Sach ยังคงชี้ว่าราคา น้ำมันโลกอาจพุ่งแตะระดับ $135 ต่อบาร์เรนกันเลยทีเดียว
ซึ่งหากเป็นไปตามคาด คงไม่ต้องพูดถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯ หรือทั่วโลกเลย ว่าจะไปขนาดไหน ครั้นเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรง ๆ เพื่อปราบเงิน เฟ้อก็กลัว Recession อีก แต่ชาติตะวันตก ก็ยังไม่วายจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียต่อไปอยู่ดี
หากพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิคสัญญาณรายเดือน กดตัวลง ขณะที่รายสัปดาห์ รายวัน Sideway ออกด้านข้าง ทำให้เบื้องต้น ทองคำยังคงติดแนวต้านสำคัญ 1,856 ดอลลาร์
ซึ่งหากไม่สามารถ ผ่านแนวนี้ไปได้ ระวังการพักฐานทางเทคนิคกลับมา 1,838 และ 1,826 ดอลลาร์ ในทางกลับกันกรณี Break ขึ้นไปได้ จะมี แนวต้านจำกัดที่ 1,875 ดอลลาร์ เช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ รอบเก็งกำไร เสี่ยง Open Short ที่ 1,853 และ 1,875 ดอลลาร์ มีจุด Stop-loss ที่ 1,883 ดอลลาร์ สำหรับท่านที่เปิดสถานะแล้ววานนี้ ที่ 1,848 ดอลลาร์ รอพิจารณาที่ระดับ 1,856 ดอลลาร์ ว่า Break หรือไม่ หากไม่ Break รอปิดทำกำไรตามปกติ กรณี Break อาจ Stop-loss ออกมาก่อน หรือ รอเฉลี่ยไม้ 2 ได้ ตามความเสี่ยงที่ท่านรับได้
ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
เช้านี้ (8 มิ.ย.) บวกเพิ่มขึ้น 100 บาท ทำให้ราคาขายออก ทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.30 น.) อยู่ที่ 30,200 ส่วนราคา รับซื้ออยู่ที่ 30,100 บาท
วันนี้ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย คาดจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50%
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.