- Advertisement -

ราคาทองคำ กลับมาปรับตัวลดลงอีกรอบ คาดนักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตเพื่อรอฟังผลการประชุม FOMC

แต่การลดลงรอบนี้อยู่ในกรอบจำกัด เพราะหวั่นว่า หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ ส่วนราคาทองคำในประเทศลดลง 100 บาท แต่ยังจ่อกลับขึ้นไปยืนเหนือ 30,000 บาท

วานนี้ ราคาทองคำกลับมาปิดตลาดปรับตัวลดลง 8 ดอลลาร์ โดยได้แรงกดดันจากการที่นักลงทุนลดสถานะการถือครองทองคำ เพื่อรอฟังผลการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย)

ประกอบกับ เมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ได้ฟื้นตัวแตะ 2.845% ทำให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,715 ดอลลาร์

แต่ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาจส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

- Advertisement -

ขณะที่ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปแตะ 1,739 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนค่าลงมา เคลื่อนไหวแถว 1,725 ดอลลาร์

ซึ่งทาง YLG มองว่า

ราคาทองคำขยับขึ้น หลังจากทิ้งตัวลงในช่วงก่อนหน้า แต่เมื่อราคาฟื้นตัวขึ้น ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา

หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,736-1,738 ดอลลาร์ ได้ มีผลให้ราคาอาจปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ บริเวณแนวรับ 1,714-1,707 ดอลลาร์ แต่หากยืนได้ราคามีโอกาสเกิดแรงซื้อ ดันราคาให้ปรับตัวขึ้นช่วงสั้น ทดสอบแนวต้านบริเวณโซน 1,738-1,757 ดอลลาร์

คำแนะนำการลงทุน เปิดสถานะขาย 1,738-1,757 ดอลลาร์ จุดทำกำไร ที่ 1,714-1,707 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน 1,757 ดอลลาร์

- Advertisement -

ขณะที่ InterGold มองว่า

จากวิกฤติครั้งที่แล้ว ณ ช่วงเวลาปี 1970-1980 เกิดสถานการณ์ที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน คือ เกิดอัตราเงินเฟ้อจากสงครามที่ยืดเยื้อ และเกิดราคาพลังงานพุ่งสูงจนเกิด Hyper Inflation กันแทบทั้งโลก โดยผู้บริโภคไม่สามารถรับมือเหตุการณ์นี้ได้ทัน จึงเกิดการถดถอยครั้งสำคัญ

ณ ตอนนั้น นโยบายทางการเงิน ก็มีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เหมือนดั่งครั้งนี้ และหลังจากนั้น วิกฤติทางการเงินก็เกิดขึ้นเมื่อดอกเบี้ยขาขึ้นระยะยาว แต่ระบบเศรษฐกิจรับไม่ไหว ก็นำไปสู่วิกฤติทางการเงิน

และครั้งนี้ เราอาจบอกได้ว่า เหตุการณ์ช่างคล้ายคลึงยิ่งนัก หรืออาจบอกได้ว่า เรากำลังวิ่งไปสู่วิกฤติทางการเงินย่อม ๆ แล้ว โดยจะเห็นชัดเจนจาก 2 ปัจจัย

1. Stagflation จาก Real Interest ที่ติดลบ 2 ครั้งในปีเดียว

2. วิกฤติทางการเงิน หรือ การถดถอยรุนแรง ดูได้จาก Inverted Yield Curve 2-10

เพราะฉะนั้น ในปีนั้น แม้ขึ้นดอกเบี้ยช่วงแรก ทองจะลง แต่หลังจากนั้น ทองก็พุ่งทะยานเป็นรอบจบอีกครั้งนึง และครั้งนี้ก็คาดว่าจะคล้ายคลึงกัน

กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำระยะสั้นเล่นในกรอบ 1,705-1,745 ดอลลาร์ ระยะยาวเก็บของให้มั่นเพื่อเตรียมพุ่งไปกับทองคำอีกครั้ง

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 ก.ค.) ลดลง 100 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (11.30 น.) อยู่ที่ 29,950 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,850 บาท

ด้านกองทุน SPDR

ถือครองทองคำลดลง 0.58 ตัน

คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี

ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ค. โดย Conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 96.8 จาก 98.7 ในเดือน มิ.ย. และยอดขายบ้านใหม่ เดือน มิ.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 663,000 ยูนิต จาก 696,000 ยูนิตในเดือน พ.ค.

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -