Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ราคาทองคำยังวิ่ง Sideway Down จนกว่าจะพุ่งทะลุ $1880 แนะปรับกรอบเวลาการลงทุนให้สั้นลง

- Advertisement -

360

- Advertisement -

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ ได้ฟื้นตัวขึ้นมายังเคลื่อนไหว sideway  ในกรอบ 1,848-1,863 ดอลลาร์ หลังจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ถูกแรงกดดันจากผลตอบแทนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ของสหรัฐ ทำให้ราคาร่วงลงไปกว่า 140 ดอลลาร์

นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่าแม้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงต้นปีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนทะลุผ่านกรอบ Sideway Down ในระยะกลาง จนทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,859 ดอลลาร์ แต่ต่อมาราคาทองคำปรับตัวลงแรงและราคามีความผันผวนอย่างมาก

“ภาพรวมระยะสั้นทิศทางราคาทองคำเปลี่ยนจากทิศทางขาขึ้น เป็น Sideway ในกรอบ หลังราคาทองคำดิ่งลงหลุดแนวรับสำคัญซึ่งเป็นกรอบทิศทางขาขึ้นในบริเวณ 1,900 ดอลลาร์ และหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10, 21, 50 และ 100 วัน และทำให้ระยะกลางราคากลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Down อีกครั้ง แนะนำว่านักลงทุนควรปรับกรอบระยะเวลาการลงทุนให้สั้นลง โดยเน้นเล่นรอบเพื่อลงทุนในระยะสั้น ตามแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาเป็นหลัก จนกว่าราคาทองคำจะทะลุขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,888-1,904 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นและระยะกลางจึงจะกลับมาเป็นบวก”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว
กราฟแสดงการคาดการณ์ราคาทองคำ

เบื้องต้น แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อ หากราคาทองคำปรับตัวลงทดสอบกรอบล่างบริเวณ 1,837 ดอลลาร์ โดยตั้งตัดขาดทุนไว้บริเวณ 1,818 ดอลลาร์ และขายทำกำไรออกมาเป็นระยะตามแนวต้าน โดยอาจทยอยขายหาราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านแรกบริเวณ 1,874-1,866 ดอลลาร์

- Advertisement -

ส่วนความร้อนแรงของผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐ จนฉุดให้ราคาร่วงลงอย่างหนักนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG มองว่า แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ว่าชัยชนะของพรรคเดโมแครตจะหนุนราคาทองคำในระยะยาว แต่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องออกตราสารหนีเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ

ประกอบกับข่าวดังกล่าวหนุนสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังและการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต จึงเป็นปัจจัยประการหนึ่งที่กดดันให้เกิดแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1.1% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1.1838% ในวันอังคาร

ทั้งนี้การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาทองคำทิ้งตัวลงแรง

ส่วนปัจจัยที่จะต้องจับตามองเป็นพิเศษในช่วงนี้ หลักๆ คือความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐ หลังสภาผู้แทนฯ ลงมติ เรียกร้องให้นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ และคณะรัฐมนตรี ใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 (25th Amendment) เพื่อปลดปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ หลังปลุกม็อบบุกรัฐสภาสหรัฐ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมาขู่ว่าการถอดถอนเขาเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับสหรัฐ เพราะจะสร้างความไม่พอใจต่อชาวอเมริกันจำนวนมาก อาจกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

- Advertisement -

นอกจากนั้นยังต้องจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีกำหนดจะแถลงการณ์ในวันศุกร์ เวลา 00.30 น. ที่งานซึ่งจัดโดย Princeton University Bendheim Center for Finance นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดมีกำหนดจะแถลงในระหว่างสัปดาห์อีกหลายคน

ทั้งนี้หากเฟดยังคงยืนยันผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป จะเป็นปัจจัยที่ยังหนุนทองคำในระยะยาว แต่หากประธานเฟด และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆส่งสัญญาณเตรียมถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) จะกลายเป็นปัจจัยกดดันทองคำได้เช่นกัน

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More