- Advertisement -
ราคาทองคำในสัปดาห์สามารถปิดตลาดแนว 1,870 ดอลลาร์ได้ ก่อนที่ในช่วงเช้าวันนี้(23 พ.ย. )ราคายังขยับในกรอบ 1,870-1,875 ดอลลาร์ ซึ่งแม้ภาพรวมทางเทคนิคในระยะสั้นจะยังไม่สู้ดีนัก แต่ก็ยังสามารถยืนในกรอบที่พร้อมจะเลือกทาง หากได้รับปัจจัยเข้ามาหนุน
นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิว เจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า หากมองปัจจัยเทคนิคประเมินว่าช่วงนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับฐานเพื่อสะสมกำลัง โดยราคาทองคำในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม มีระดับสูงสุดในแต่ละเดือนลดลง (Lower High) และระดับต่ำสุดของเดือน สิงหาคม กันยายน ลดระดับลง(Lower Low) เช่นกันทำให้ราคาทองคำในระยะกลางมีทิศทางแกว่งตัวในแบบ Sideway Down จึงยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะแกว่งตัวออกด้านข้าง ในลักษณะอ่อนตัวลงได้
ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,847 ดอลลาร์ (Low เดือนก.ย.) หากไม่หลุดราคาจะแกว่งตัวออกด้านข้าง แต่หากหลุดจะทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลงลึกได้โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,821-1,808 ดอลลาร์
์ขณะที่แนวต้านแรกอยู่บริเวณ 1,921 ดอลลาร์ (High เดิมของราคาทองคำในปี 2011) หากทะลุขึ้นไปยืนได้จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,956 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นแนวต้านสำคัญในระยะกลาง เพราะหากขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ จะถือว่าราคาสามารถ Breakout กรอบ Sideway Down ซึ่งจะทำให้มุมมองเชิงบวกในระยะกลางเพิ่มขึ้น
- Advertisement -
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าวถึงปัจจัยพื้นฐานว่า ในระยะสั้นราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 หลังจากที่กลุ่มบริษัท Pfizer และBioNTech และบริษัท Moderna ได้แถลงความความคืบหน้าผลการทดลองวัคซีนของตัวเองออกมา และทั้ง 2 บริษัท เตรียมยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน (emergency use authorization – EUA) ต่อ FDA ของสหรัฐ หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คาดว่าบุคลากรทางการแพทย์ของสหรัฐจะได้รับการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 เป็นครั้งแรกในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนั้นยังต้องติดตาม เรื่องการชะลอตัวลงของกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน SPDR แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุน SPDR จะยังคงถือครองทองคำมาเพิ่ม 326.92 ตัน แต่กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าเริ่มชะลอตัวอย่างชัดเจน โดยจะเห็นได้จากในช่วงปลายเดือนต.ค.ถึงกลางเดือนพ.ย. กองทุน SPDR เริ่มลดการถือครองทองคำกว่า 40 ตัน
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐรอบใหม่ที่ล่าช้าออกไปเป็นปีหน้า และขนาดของวงเงินมีแนวโน้มจะไม่สูงมากนัก หลังจากที่ผลการเลือกตั้งบ่งชีhว่าพรรครีพับลิกันมีแนวโน้จะครองเสียงข้างมากในสภาสูง จึงทำให้ราคาทองคำขาดปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
“จากปัจจัยเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่ระบุมา จึงประเมินว่าในระยะสั้น หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุน อาทิ เช่น หากเฟดไม่มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. ยังมีโอกาสที่จะเกิดแรงขายในตลาดทองคำ จนร่วงลงทดสอบ หรือ หลุดกรอบแนวรับ 1,850-1,847 ดอลลาร์ได้ กลับกันหากมีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อ หนุนให้ราคาทองคำทะลุ 1,900 ดอลลาร์ได้”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG
,มาดูคำแนะนำการลงลงทุน สำหรับผู้ที่มีทองคำในมือหากถือสถานะเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ลดสถานะการถือครองทองคำบางส่วนด้วยการขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง
- Advertisement -
สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในมือ ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม เนื่องจากสภาพแวดล้อมโดยภาพรวมยังคงเป็นบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำถึงติดลบ รัฐบาลสหรัฐยังมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังซึ่งจะกระตุ้นเงินเฟ้อ ที่สำคัญคือสกุลเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไปในปีหน้า
แต่แนะนำให้เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นหลัก รวมถึงต้องประเมินความเสี่ยงที่รับได้ก่อนเข้าสถานะ และกำหนดจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน เนื่องจากภาพรวมราคาทองคำยังคงมีความผันผวน ที่สำคัญ คือเหลือเงินทุนส่วนหนึ่งเพื่อเข้าซื้อถัวเฉลี่ย ในกรณีที่ทองคำมีการปรับตัวลดลง
- Advertisement -
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.