18-05-20
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ ได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,750 ดอลลาร์ สูดสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงในช่วงขาลง และเฟดจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ
ขณะที่ ความตึงเครียดของสถานการณ์การค้าระหว่าง สหรัฐฯ และ จีน ทวีความรุนแรงอีกรอบ ภายหลังสหรัฐฯ อาจตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับจีน ความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งกองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยซื้อทองคำ 32.13 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนทิศทางเงินบาทในวันนี้ คาดจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ อ่อนค่าลง จากยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน เม.ย. ลดลง 16.4% ซึ่งลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 โดย USD Futures เดือนมิ.ย.63 คาดจะมีแนวต้านที่ 32.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 32.00 บาท/ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ ทะลุแนวต้านสำคัญ 1,750 ดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้าน 1,770 และ 1,778 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,750 ดอลลาร์ และ 1,740 ดอลลาร์ ประเด็นที่คาดกระทบต่อราคาทองคำมากที่สุดคือสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีน ซึ่งขึ้นอยู่กับท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในช่วงนี้ จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19
สัปดาห์นี้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีน การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จีดีพีไตรมาส 1 ของญี่ปุ่น และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน