27-05-20
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกต่างทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ซึ่งนักลงทุนมองว่า จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเป็นปกติ และสร้างความหวังว่าเศรษฐกิจจะเริ่มพลิกฟื้น ทำให้ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 14.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุด
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด อาทิ ดัชนีราคาบ้านจาก S&P/CS, ยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงถึง 27 ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์สู่ระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี แรงขายเริ่มชะลอตัวลงโดยราคาได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังจากการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 คืบหน้าและการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown กลับมาบั่นทอนอุปสงค์ดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า “เขาจะเปิดเผยมาตรการที่สหรัฐจะดำเนินการต่อจีนก่อนสิ้นสัปดาห์นี้ และจะเป็นมาตรการที่มีอานุภาพอย่างมาก” ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนจะต้องติดตามต่อไป
มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทางด้านเทคนิค หากราคาทองคำไม่สามารถ break out กรอบราคาด้านบนหรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,722-1,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายตามมาซึ่งอาจส่งผล ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากทะลุแนวต้านแรกไปได้ แนวต้านถัดไปอยู่ในโซน 1,739 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ พิจารณาขายราคาไม่ผ่านแนวต้าน 1,722-1,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,739 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อทยอยเข้าซื้อคืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์