02-06-20
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังได้รับแรงหนุนจากเหตุจลาจลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายจอร์จ ฟลอยด์ในสหรัฐที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่ารัฐบาลกลางจำเป็นต้องเข้าคุมสถานการณ์ โดยยืนยันจะส่งกองกำลังทหารติดอาวุธจำนวนหลายพันคนเข้ายุติการจลาจล และการปล้นสะดมที่เกิดขึ้น ขณะที่วานนี้ ตำรวจได้ยิงก๊าซน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่สันติใกล้ทำเนียบขาว สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกว่า การเปิดเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีการประท้วงรุนแรงจะต้องถูกชะลอออกไป นอกจากนี้การรวมตัวกันของคนหมู่มากอาจสร้างความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 อีกด้วย
ทางด้านความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงดำเนินต่อไปเช่นกัน ล่าสุด Bloomberg รายงานว่าจีนได้สั่งการให้บริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาล “ระงับ” การซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐรวมถึงถั่วเหลืองและเนื้อสุกร เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ในระหว่างวันจะเกิดแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ แต่แรงซื้อยังคงหนุนให้ราคาสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +5.26 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
มาดูการเคลื่อนไหวราคาทองคำทางด้านเทคนิค ในระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,728-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือระดับสูงสุดของวันก่อนหน้าโซน 1,743-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก มุมมองเชิงบวกจะลดลงโดยกรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,712 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ รอเปิดสถานะซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น โดยใช้บริเวณ 1,728-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุด 1,712 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุนและชะลอการเข้าซื้อออกไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,743-1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัวลง