Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ย้อนรอย การเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ กับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ (InterGOLD)

- Advertisement -

450

- Advertisement -

อินเตอร์โกลด์ฯ เผยการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มีผลต่อความผันผวนของราคาทองคำในระยะสั้นเท่านั้น สำหรับนักลงทุนระยะยาวก็อาจจะไม่ต้องสนใจนัก

บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

อย่างที่รู้กันว่า สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจหมายเลข 1 ของโลกในปัจจุบันนี้ ดังนั้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ที่กำลงจะมาถึงจึงมีความสำคัญที่ทำให้คนทั้งโลกต้องจับตามอง เพราะมีผลต่อการกำหนดเเนวทาง ทั้งการเมืองระหว่างประเทศ เเละนโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ ยิ่งถ้าเป็นนักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในสินทรัพย์อย่างทองคำนั้น ยิ่งต้องจับตาเหตุการณ์นี้เป็นพิเศษเลย เพราะในช่วงเหตุการณ์ระดับโลกเเบบนี้ เป็นเรื่องปกติที่ตลาดการเงินจะมีความผันผวนของราคาที่สูงกว่าภาวะปกติ

Changes in Gold Price During Election Years
Changes in Gold Price During Election Years

จากการศึกษาประวัติของราคาทองคำในปีที่มีการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในอดีตที่ผ่านมา ในตารางจะแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมีผลต่อการขึ้นลงของราคาทองคำอย่างไร โดย สีเเดง คือ พรรค Republican ซึ่งก็คือพรรคของ “Trump” ส่วนสีน้ำเงิน คือ Democrat ของทาง “Biden” จากข้อมูลย้อนหลัง 10 ครั้งล่าสุด ฝั่ง Republican ชนะไป 6 ครั้ง เเละ Democrat 4 ครั้ง

- Advertisement -

โดยหากเป็น Republican ได้รับชัยชนะ ในเดือนที่มีการเลือกตั้ง มีอัตรา 3 ใน 6 ครั้ง ที่ส่งผลให้ราคาทองขึ้น ส่วน Democrat นั้น มี 1 ครั้งที่ทำให้ราคาทองขึ้น แต่เป็น 1 ครั้งที่เเทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เเละ 2 ครั้งที่ราคาทองลง ดังนั้น หากดูคร่าว ๆ จะพบว่าไม่ว่า พรรคไหนชนะก็ไม่ได้ส่งผลกระทบให้ทองคำเคลื่อนที่ไปทิศทางใด ทิศทางหนึ่งอย่างมีนัยยะสำคัญ

แต่หากพิจารณารายละเอียดเพิ่มขึ้น เราจะพบว่า บางปีเดือนที่มีการเลือกตั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างรุนเเรงเลยทีเดียว โดยเฉพาะในปี 2547, 2551 เเละ 2559 (อย่างปี 2547 ราคาทองอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท การที่มีการขยับขึ้นของราคาที่ 500 บาท ก็ถือว่าสูง)

เมื่อมาดูภาพใหญ่ขึ้น หากดูภาพรวมของปีที่มีการเลือกตั้งในเเต่ละปี โดยเฉลี่ยเเล้ว (เส้นสีแดง) ทองคำเคลื่อนที่หรือมีการขยับขึ้นหรือลงที่ประมาณไหน จากกราฟจะเห็นว่าทองคำจะค่อย ๆ ปรับขึ้นในช่วงต้นปี และแตะจุดสูงสุดในช่วงกลางปี จากนั้นก็ค่อย ๆ ย่อตัว เเละเริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งก็คล้ายปีนี้ แต่ทั้งนี้ การที่เราจะวิเคราะห์ราคาทองจากปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างเดียวก็อาจจะดูหยาบไปหน่อย เพราะบริบทสังคมเเละเศรษฐกิจในเเต่ละยุคสมัยของการเลือกตั้งก็มีความเเตกต่างกันไป

ลองมาย้อนดูเเบบเจาะลึกย้อนหลังสัก 4 ครั้งล่าสุดกัน

2547 – George W. Bush (R)

- Advertisement -

2547 – George W. Bush ®  |  Source: Data from Tradingview
2547 – George W. Bush (R) | Source: Data from Tradingview

ในปี 2547 ราคาทองคำในช่วงต้นปีเทรดอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท ในช่วงไตรมาสแรก โดยในช่วงปีนั้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไว้ที่ 1.00% แต่ในช่วงระหว่างปี ก็มีช่วงที่ราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 8,000 บาท หลายครั้ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 พฤศจิกายน ท้ายที่สุด George W. Bush เอาชนะการเลือกตั้งในครั้งนั้นไปได้พร้อมกับแต่งตั้ง อลัน กรีนสแปน ทำหน้าที่เป็นประธาน FED เป็นสมัยที่ 5 ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นหลังจากนั้น โดยทองคำแท่งขึ้นทำจุดสูงสุดประจำปีประมาณ 9,000 บาท ในเดือน ธันวาคม

2551 – Barack Obama (D)

ในปี 2551 นั้นนอกจากจะเป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งหนึ่งเเล้ว ยังเป็นปีที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์อีกด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 17,000 บาท ในเดือนมีนาคม เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ประกอบกับการที่ FED มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตซับไพร์ม แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตก็ได้มีการเเห่ขายเพื่อถือเงินสด จนทองคำปรับตัวลดลงไปเทรดที่ระดับประมาณ 12,000 บาท แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่โอบามาชนะการเลือกตั้ง  ราคาทองคำแท่งฟื้นตัวตลอดช่วงที่เหลือของปี และปิดตัวลงในปี 2551 ที่ราคาประมาณ 15,000 บาท

2555 – Barack Obama (D)

2555 – Barack Obama (D) | Source: Data from Tradingview

ในปี 2555 ราคาทองคำเริ่มต้นในปีที่สูงกว่า 24,000 บาท และพุ่งสูงถึง 25,500 บาท ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ลงเอยด้วยการทำจุดต่ำสุดประจำปีที่ 23,000 บาท ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ไว้ใกล้ศูนย์ก็ตาม ราคาทองคำฟื้นตัวก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายน เเละกลับมาซื้อขายที่เหนือ 25,000 บาท แต่หลังจากนั้น ราคาทองคำก็ย่อตัวลงในเดือนธันวาคม ก่อนจะปิดปีที่ 24,000 บาท

2559 – Donald Trump (R) | Source: Data from Tradingview

ในปี 2559 ราคาทองคำเปิดปีที่ราคาประมาณ 18,500 บาท เนื่องจาก FED ที่นำโดยเจเน็ต เยลเลน ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2558 ก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นมาที่ระดับราคาประมาณ  22,500 บาท ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางไว้ในช่วง 0.25% ถึง 0.50% อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 21,000 บาท ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 4 พฤศจิกายน เเละเมื่อโดนัลด์ทรัมป์เอาชนะการเลือกตั้ง ราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงขาลง เเต่สุดท้ายทองคำก็โดนเเรงเทขายอย่างหนักหน่วง เเละปรับตัวลงปิดที่ 19,000 บาท

2563 – ???

หลังจากการล่มสลายลงของระบบการเงินแบบ Bretton Wood ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่มากระทบกับราคาทองคำก็ได้เปลี่ยนแปลงไป อาทิ การที่ประเทศจะพิมพ์เงินสกุลต่าง ๆ ออกมา ทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องมีทองคำหนุนหลังก็สามารถพิมพ์ได้เเล้ว เเต่ยังมีหลายต่อหลายคนคิดว่าจะพิมพ์เงินต้องมีทองอยู่

หากมองกันแบบระยะยาวเเล้ว จะพบว่าทองคำก็มี Trend ของราคาที่ค่อนข้างชัดเจนคือขึ้นในระยะยาว อย่างในปีนี้ ทองคำก็ได้ทำลายจุดสูงสุดใหม่ไปเเล้วก่อนการเลือกตั้ง โดยขึ้นไปสูงกว่า 26,000 บาท เเละพบว่าการเลือกตั้งของสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้ส่งผลต่อภาพระยะยาวของการขึ้นลงของราคาทองคำอย่างมีนัยยะสำคัญ

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดในช่วงระยะหลังของราคาทองคำ ก็คือ ภาวะที่มีความผันผวนของราคาที่สูงขึ้น แปลง่าย ๆได้ว่า ทองคำนั้นเป็นขาขึ้นในระยะยาว แต่ในช่วงระหว่างขึ้นนั้นก็มีการปรับตัวลงแบบรุนเเรงประกอบกันไป

ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ น่าจะเข้ามาสร้างความผันผวนในระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาว ก็อาจจะไม่ต้องสนใจนัก เเต่ถ้าเป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น ความผันผวนคือสิ่งที่คุณต้องเจอเเละเตรียมพร้อมรับมือในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้

แหล่งที่มาข้อมูล : valuethemarkets.com และ dailyfx.com

เรื่องโดย: เทรดเดอร์ อินเตอร์โกลด์

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More