ปธ.เฟด ชี้ bitcoin ไม่ใช่สกุลเงินของโลกเป็นเพียงสินทรัพย์เก็งกำไรที่ใช้แทนทองคำมากกว่าดอลลาร์ พร้อมระบุเฟดไม่เร่งรีบออก ดิจิตัลดอลลาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาอย่างรอบครอบ และต้องได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส ขณะที่ ผู้ก่อตั้ง BTCC คาด bitcoin อาจพุ่งแตะ $100,000 ในซัมเมอร์นี้ หลังเข้าสู่ภาวะกระทิง
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวกล่าวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการประชุม Bank for International Settlements (BIS) โดยระบุว่าเฟดจะไม่เดินหน้ากระบวนการออกสกุลเงินดิจิทัลของเฟด หากไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส พร้อมระบุการที่เฟดร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ก็เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ใช่ความพยายามในการสร้างสกุลเงินดิจิทัลต้นแบบแต่อย่างใด
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ยังกล่าวถึง bitcoin ว่าเป็นสินทรัพย์เก็งกำไรที่ใช้แทนทองคำมากกว่าดอลลาร์ และไม่ใช่สกุลเงินทั่วโลก เพราะมีความผันผวนมากเกินไปสำหรับผู้บริโภค พร้อมระบุดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ธนาคารกลางสหรัฐควรอยู่ในความล้ำสมัยในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่ไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ
ทั้งนี้แม้ว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโต แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นใน นอกจากนั้นจากรายงานภายในล่าสุดของ CoinPayments พบว่าตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2019 ถึงไตรมาสที่สี่ของปี 2020 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลในอเมริกาเหนือมีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 300% โดยมีธุรกิจและร้านค้าจำนวนมากหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัล
ด้านนายบ๊อบบี้ ลี ผู้ก่อตั้ง BTCC ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล กล่าวว่า bitcoin มีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 300,000 ดอลลาร์ หรือราว 9,300,000 บาท พร้อมนระบุภาวะตลาดกระทิงของ bitcoin จะมาทุกๆ 4 ปี และครั้งนี้ถือว่าใหญ่มาก และคาดว่า bitcoin สามารถพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ในช่วงฤดูร้อนนี้”
ทั้งนี้ bitcoinมีวัฏจักรภาวะตลาดกระทิงขนาดใหญ่ถึง 2 ครั้งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2560 ซึ่ง bitcoin พุ่งใกล้แตะ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี จากระดับเพียง 1,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี ส่วนในปีนี้ bitcoin ได้ปรับตัวอย่างร้อนแรง โดยอยู่ที่ราว 30,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี และพุ่งทะลุ 60,000 ดอลลาร์ในต้นเดือนนี้ ก่อนที่จะอยู่ที่ราว 58,000 ดอลลาร์ในวันนี้
อย่างไรก็ดี นายลีเตือนว่า bitcoin จะเผชิญภาวะฟองสบู่แตก หลังจากแตะระดับสูงสุด ซึ่งจะทำให้ราคาเป็นช่วงขาลงเป็นเวลาหลายปี และมูลค่า bitcoin อาจหายไปถึง 80-90% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
CR: Kitco news
CR: อินโฟเควสท์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.