ทิศทางราคาทองคำ
เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมากเกือบ 2% หรือประมาณ 29 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายอย่างหนักจากกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 903.46 ตัน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Services PMI และ Non-Farm Employment Change ที่ออกมาดีขึ้นกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับเปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 104.48 จุด ก่อนจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 105.40 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 105.05 จุด
ภาพรวมตลาดเริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเช่นเดิม ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงตลาดเอเชีย โดยไปทำจุดสูงสุดที่ 1,810 เหรียญ ก่อนจะเผชิญแรงเทขายกลับลงมาปิดที่ 1,768 เหรียญ และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,765 เหรียญ ด้านค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าตามสภาพของตลาดการเงินจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าจากระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าขึ้นมาที่ 34.95 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนไทยทั่วไปยังเป็นภาวะเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางตลาดยังคงรอความชัดเจนของการปรับชึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มกลับมาทดสอบแนวรับระยะกลางที่บริเวณ 1,755 เหรียญ โดยยังคงเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบด้านบน ราคาทองคำจะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,750 เหรียญ และ 1,735 เหรียญตามลำดับ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวรับที่ 1,755 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,780 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,765 เหรียญ และแนวต้าน 1,790 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,755 เหรียญ และแนวต้าน 1,780 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,200 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 29,700 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways Up ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
Comments are closed.