- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย $1,738-1,752

จุดทำกำไร    ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,721-1,716

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,752

แนวรับ : 1,716 1,697 1,681  แนวต้าน : 1,738 1,752 1,766

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดดิ่งลง 21.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ให้ความสำคัญ จะเพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดย “ต่ำกว่า” ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.8% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. โดย “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สะท้อนว่าเงินเฟ้อในสหรัฐชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำดีดตัวได้จำกัด และปรับตัวลงแรงจากถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ทั้งนี้ นายพาวเวลล์ย้ำชัดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด “เป็นระยะเวลาหนึ่ง” แม้นโยบายการเงินที่ตึงตัวจะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ตลาดงานอ่อนแอลง และสร้าง “ความเจ็บปวด” ให้แก่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ แต่ความล้มเหลวในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาจะส่งผลกระทบเชิงลบที่ใหญ่กว่ามาก

พร้อมระบุว่าประวัติศาสตร์เตือนว่าอย่าผ่อนคลายนโยบายการเงิน “ก่อนเวลาอันควร” และยังคงเปิดโอกาสสำหรับการ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ” ในเดือนก.ย. ถ้อยแถลงดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่า ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงดิ่งลงแรง จนกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่ม นั่นทำให้ดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดแข็งค่า 0.53% ในวันศุกร์

ก่อนที่เช้านี้ ดัชนีดอลลาร์จะพุ่งขึ้นต่อทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ที่ 109.392 จนกดดันทองคำให้ดิ่งลงต่อจนทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนบริเวณ 1,823.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวันนี้ในตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

• (+) เรือรบสหรัฐแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรกหลังเพโลซีเดินทางเยือน เรือรบของสหรัฐ 2 ลำได้แล่นผ่านช่องแคบระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งการแล่นเรือผ่านบริเวณดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อช่วงต้นเดือนสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อให้เกิดความขุ่นเคืองกับจีน ซึ่งอ้างว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ
• (+) สหรัฐเผยการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ผู้บริโภคเพิ่มความเชื่อมั่น ขณะลดคาดการณ์เงินเฟ้อ
• (+) ปธ.เฟดแอตแลนตาหนุนขึ้นดบ. 0.50% เดือนหน้า หลังดัชนี PCE ชะลอตัว นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ทำให้เขามีแนวโน้มสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี นายบอสติกย้ำว่า สหรัฐยังมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจอีกหลายตัวซึ่งอาจทำให้เขาเปลี่ยนใจได้
• (+) สหรัฐเผยดัชนี PCE ชะลอตัวในเดือนก.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจากที่ดีดตัวขึ้น 6.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.   ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.8% และชะลอตัวจากระดับ 4.8% ในเดือนมิ.ย.   เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.
• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 1,008.38 จุด วิตกเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 3% ในวันศุกร์ (26 ส.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,283.40 จุด ร่วงลง 1,008.38 จุด หรือ -3.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,057.66 จุด ร่วงลง 141.46 จุด หรือ -3.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,141.71 จุด ร่วงลง 497.56 จุด หรือ -3.94%
• (-) ดอลลาร์แข็งค่า หลังพาวเวลย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 ส.ค.) หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ระดับ 108.8060   ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 137.37 เยน จากระดับ 136.46 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9664 ฟรังก์ จากระดับ 0.9635 ฟรังก์สวิส และยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3026 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2937 ดอลลาร์แคนาดา   ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9968 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9973 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.1744 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1828 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6894 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6978 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) “พาวเวล” ลั่นสงครามเงินเฟ้อยังไม่จบ! ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่เดือนก.ย. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ “เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ โดยภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพของราคาจะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า” นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันนี้   นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ” ในเดือนก.ย.   นายพาวเวลย้ำว่าเฟดจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตสะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปจะทำให้ตลาดแรงงานทรุดตัวลงอย่างหนัก “แมัว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค.เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ข้อมูลเพียงเดือนเดียวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คณะกรรมการเฟดเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงแล้ว” นายพาวเวลกล่าว

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -