ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
วันนี้ตลาดการเงินสหรัฐเปิดทำการครึ่งวัน
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,800 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,785-1,795 ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ทำให้มีแนวโน้มว่าเฟดจะเร่งปรับลดมาตรการ QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ท่ามกลางความกังวลของภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
- วันนี้ตลาดการเงินสหรัฐเปิดทำการครึ่งวัน เนื่องในวัน Black Friday ส่วนคืนนี้สหรัฐไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ สำหรับสัปดาห์หน้าติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขต (Beige Book) และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนพ.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,800 ดอลลาร์ทั้งนี้คาดจะราคาทองคำจะสร้างฐานที่แนวรับ 1,770-1,780 ดอลลาร์โดยมีแนวต้าน1,800 ดอลลาร์ และ 1,810 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวรับที่ 1,770ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,788.50 | +0.2 | 1,780/1,770 | 1,800/1,810 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,350 | +50 | 28,100/27,950 | 28,400/28,550 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,430 | – | 28,280/28,120 | 28,560/28,690 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770ดอลลาร์ (GF 28,120บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF27,910 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,791.70 | -3.00 | 1,781/1,771 | 1,801/1,811 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำเมื่อราคาGOZ21ปรับลงมาที่ 1,771 ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,761ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่า ตามทิศทางตลาดโลกเนื่องจากปัจจัยสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า จากปัจจัยหนุนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีเกินคาด ทำให้มีแนวโน้มที่เฟดเร่งปรับลดวงเงิน QE และขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทคาดยังอ่อนค่าลงต่อ โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.50-33.60 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :ปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :หุ้นยุโรปปิดบวกกลุ่มสาธารณูปโภคหนุนตลาด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยอาทิกลุ่มสาธารณูปโภคท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในยุโรปดัชนีStoxx Europe 600 ปิดที่ 481.72 จุดเพิ่มขึ้น 2.03 จุดหรือ +0.42% ดัชนีCAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,075.87 จุดเพิ่มขึ้น 33.64 จุดหรือ +0.48%, ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,917.98 จุดเพิ่มขึ้น 39.59 จุดหรือ +0.25%ดัชนีFTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,310.37 จุดเพิ่มขึ้น 24.05 จุดหรือ +0.33% ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ซึ่งถือเป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัยในช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคยังได้แรงหนุนจากการผลักดันของเยอรมนีเพื่อเพิ่มการปกป้องสภาพอากาศซึ่งรวมถึงการขยายพลังงานทดแทนให้เร็วขึ้นและเร่งการเลิกใช้ถ่านหินหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.6% โดยบวกขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 6 วันหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มนี้เมื่อต้นสัปดาห์การซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าบรรดานักลงทุนจะยังคงจับตาวิกฤตโควิด-19 ในยุโรปอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดโควิดครั้งใหม่
WHO ย้ำฉีดวัคซีนครบแล้วยังต้องสวมหน้ากาก-เว้นระยะห่างหลังยอดโควิดพุ่งอีก
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19อย่างเคร่งครัดต่อไปไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัยหรือการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรปกลับมาดีดตัวสูงขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลปลายปีนี้นายแพทย์ทีโดรสอัดฮานอมกีบรีเยซุสผู้อำนวยการใหญ่ของWHO กล่าวว่า “แม้คุณจะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวคุณเองติดเชื้อหรือแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นที่อาจเลวร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ซึ่งหมายความว่าเราทุกคนยังต้องสวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกันถ้าเป็นไปได้ควรพบปะกับผู้คนในพื้นที่กลางแจ้งหรือในอาคารที่มีการระบายอากาศดี” ผู้อำนวยการWHO ระบุว่าประชาชนในหลายประเทศเกิดความชะล่าใจคิดว่าการระบาดของโรคโควิด-19สิ้นสุดลงแล้วและการฉีดวัคซีนก็สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้100%เต็มซึ่งความเข้าใจผิดดังกล่าวได้ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งนายแพทย์กีบรีเยซุสย้ำว่าวัคซีนสามารถช่วยลดอาการป่วยรุนแรงไม่ให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ก็จริงแต่ยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อและแพร่เชื้อได้อยู่หลังจากที่ประชาชนเริ่มกลับไปรวมกลุ่มทางสังคมเหมือนในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดอนึ่งนายแพทย์กีบรีเยซุสกล่าวว่าขณะนี้ยุโรปเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดโดยมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง67%ของผู้ติดเชื้อทั่วโลกณสิ้นสุดสัปดาห์ของวันที่21พ.ย. โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า2.4ล้านรายเพิ่มขึ้น11%จากสัปดาห์ก่อนหน้า
รมว.พลังงานยุคทรัมป์ชี้รัฐบาลไบเดนระบายน้ำมันจากคลังสำรองเป็นเรื่องผิดพลาด
นายแดนบรุยแย็ตต์อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เปิดเผยว่าการที่คณะรัฐบาลของประธานาธิบดีโจไบเดนตัดสินใจระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด “ผมคิดว่านี่เป็นการตัดสินใจที่แย่มากในด้านนโยบาย” นายบรุยแย็ตต์ให้สัมภาษณ์ในรายการCapital Connection ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีหลังจากที่ปธน.ไบเดนประกาศว่าจะระบายน้ำมันดิบจำนวน50ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) “นี่ไม่ใช่ภาวะเร่งด่วนด้านอุปทานเรื่องเร่งด่วนอย่างเดียวที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือภาวะเร่งด่วนทางการเมืองการกระทำของรัฐบาลนายไบเดนแสดงให้เห็นว่าพวกเขากังวลเรื่องการเลือกตั้งกลางเทอมในปี2565ต่างหาก” นายบรุยแย็ตต์กล่าว “สำหรับสหรัฐปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องน้ำมันแต่เป็นเรื่องการเมืองผมไม่ชอบการตัดสินใจแบบนี้แต่รัฐบาลกลับทำแบบนี้กับคลังสำรองน้ำมันSPR ซึ่งนับเป็นความผิดพลาดและไม่ควรนำน้ำมันออกมาใช้ด้วยเหตุผลเหล่านี้” นายบรุยแย็ตต์กล่าว
สหรัฐขึ้นแบล็กลิสต์บ.เทคโนฯจีนอีกเหตุกังวลความมั่นคงแห่งชาติ
สถานีโทรทัศน์CNBC รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจไบเดนได้ขึ้นบัญชีดำด้านการค้ากับบริษัทเทคโนโลยี8แห่งในจีนฐานมีส่วนช่วยด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง (quantum computing) ของกองทัพจีนรวมทั้งได้มาหรือพยายาม “ให้ได้มาซึ่งรายการต่างๆที่มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐเพื่อสนับสนุนการประยุกต์ใช้งานทางทหาร” โดยระบุว่าเป็นข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติตลอดจนด้านนโยบายต่างประเทศทั้งนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ร้องเรียนมานานว่าบริษัทจีนมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนรวมถึงคอยรวบรวมข้อมูลที่อ่อนไหวในนามของกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนโดยก่อนหน้านี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนในการจารกรรมทางอุตสาหกรรมนอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ยังขึ้นบัญชีดำหน่วยงานและบุคคล16รายที่ปฏิบัติงานในจีนและปากีสถานด้านโปรแกรมขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของปากีสถานโดยรวมแล้วรัฐบาลปธน.ไบเดนได้ขึ้นบัญชีดำหน่วยงานและบุคคลจำนวน27รายที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน, ปากีสถาน, รัสเซีย, ญี่ปุ่นและสิงคโปร์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.