ทองถูกกดดันจาก bond yield ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี 10 เดือน
คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways down
- ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นไประดับสูงสุดที่ 2.40% ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี 10 เดือน รวมถึงตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้น จากการที่ประธานเฟดส่งสัญญาณอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 809,000 ยูนิต จาก 801,000 ยูนิต
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways down โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,900 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,940 ดอลลาร์ และ 1,950 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,920.35 | 1,900/1,890 | 1,940/1,950 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
30,550 | 30,200/30,100 | 30,650/30,800 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
30,670 | 30,530/30,460 | 30,950/31,040 |
สำหรับการเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,900 ดอลลาร์ (GF 30,530 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,890 ดอลลาร์ (GF 30,460 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,922.60 | 1,902/1,892 | 1,942/1,952 |
สำหรับการเข้าซื้อราคา GOH22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,902 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,892 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้อ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง จากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้นคาดอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์
News
“ไบเดน” เตือนรัสเซียอาจใช้อาวุธเคมี-ชีวภาพโจมตียูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศเตือนว่า คำกล่าวอ้างของรัสเซียที่ว่ายูเครนมีการพัฒนาอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในประเทศ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัสเซียกำลังพิจารณาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตียูเครน ปธน.ไบเดนกล่าวในการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียนั้น “อยู่ในสภาพหลังชนฝา เขาจึงอ้างถึงข้อมูลเท็จใหม่ ๆ ที่เขาสร้างขึ้น รวมถึงเรื่องที่ว่าสหรัฐมีอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยุโรป ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย” “นอกจากนี้รัสเซียยังอ้างว่ายูเครนเองก็มีอาวุธเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าปธน.ปูตินกำลังพิจารณาใช้อาวุธเหล่านี้” ปธน.ไบเดนกล่าวเสริม สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยย้ำเตือนถึงผลกระทบที่จะตามมาหากรัสเซียใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในยูเครน ด้านสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า รัสเซียอ้างว่ามีหลักฐานยืนยันถึงข้อตกลงระหว่างสหรัฐและยูเครนเพื่อร่วมวิจัยอาวุธชีวภาพในประเทศยูเครน อย่างไรก็ตาม อิซุมิ นากามิตสึ รองเลขาธิการ UN ฝ่ายกิจการลดอาวุธ ยืนยันว่า UN ไม่เคยได้รับรายงานใด ๆ เกี่ยวกับโครงการวิจัยอาวุธชีวภาพในยูเครน
ผู้นำยูเครนลั่นจำเป็นต้องคุยปูตินเพื่อยุติสงคราม
ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนได้ออกมาเปิดเผยว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะสามารถเจรจายุติสงครามในยูเครนโดยปราศจากการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย “ผมเชื่อว่าจนกว่าเราจะได้ประชุมกับประธานาธิบดีรัสเซีย…คุณก็ไม่อาจเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าพวกเขาเตรียมลงมือทำสิ่งใดเพื่อยุติสงครามและสิ่งที่พวกเขาเตรียมจะทำ หากเราไม่พร้อมประนีประนอม” สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ ยูเครนรายงานคำสัมภาษณ์ของปธน.เซเลนสกีผ่านสถานีโทรทัศน์ยุโรป ปธน.เซเลนสกีกล่าวด้วยว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะสะสางประเด็นดินแดนที่ถูกยึดครองในยูเครนผ่านการประชุมเพียงครั้งเดียว โดยระบุว่า “ผมพร้อมประชุมกับประธานาธิบดีรัสเซียเพื่อหารือประเด็นดินแดนที่ถูกยึดครอง แต่ผมแน่ใจว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในการประชุมครั้งนี้”
“พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เหตุเงินเฟ้อสูงเกินไป
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ นายพาวเวลกล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐว่า “ตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงเกินไป ด้วยเหตุนี้เราจึงอาจจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง เราก็จะทำ และหากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินนโยบายแบบคุมเข้มมากกว่าที่เคยดำเนินการมา เราก็จะทำเช่นกัน” นายพาวเวลระบุว่า สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อย่ำแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ก่อนที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะปะทุขึ้นก็ตาม พร้อมกับเตือนว่า ผลกระทบของสงครามและการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า ผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นทั่วโลก รวมทั้งสงครามและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในต่างประเทศและจะยิ่งทำให้ห่วงโซ่อุปทานตกอยู่ในภาวะชะงักงันมากขึ้นอีก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะลุกลามบานปลายมาถึงเศรษฐกิจสหรัฐด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.