Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 23 ธ.ค.64 by YLG

- Advertisement -

245

- Advertisement -

คำแนะนำ        เปิดสถานะขาย 1,815-1,834

จุดทำกำไร      ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,783-

แนวรับ : 1,772 1,753 1,737  แนวต้าน : 1,815 1,834 1,849

สรุป  

ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 14.09  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ระหว่างวันการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์  และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,785.30  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ซึ่งถือว่ายังไม่หลุดระดับต่ำสุดของวันทำการก่อนหน้า  จึงเริ่มเกิดแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาพยุงราคาเอาไว้  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการกลับมาอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  จากแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งรวมถึงยูโรและเงินปอนด์ เนื่องจากเทรดเดอร์มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจึงกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on)  แม้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2021 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่สองที่ระดับ 2.1% แต่การอ่อนตัวลงของราคาหลังการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด  และเป็นการยกระดับต่ำสุดขึ้น(Higher Low) ก่อนที่ราคาทองคำจะกลับมามีแรงหนุนอีกครั้ง  หลังการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนพ.ย.ที่ออกมาแย่เกินคาด  ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจนทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,804.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -4.94 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดขายบ้านใหม่, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนธ.ค.จาก UoM

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.เทขายสกุลเงินปลอดภัยหลังคลายกังวลโอมิครอน  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งรวมถึงยูโรและเงินปอนด์ หลังคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะที่ 96.0888 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9238 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2843 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2925 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.17 เยน จากระดับ 114.10 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1331 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1281 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3359 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3264 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7154 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด  ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 115.8 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 111.9 ในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 110.8  ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะยังคงขยายตัวในปีหน้า แม้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งกลับมาระบาดหนักอีกครั้งเพราะไวรัสกลายพันธุ์
  • (+) สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. แต่ซัพพลายยังตึงตัว  สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้น 1.9% สู่ระดับ 6.46 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน แต่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 6.52 ล้านยูนิต  อย่างไรก็ดี ซัพพลายยังคงตึงตัว ส่งผลให้ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยของบ้านเพิ่มขึ้น 13.9% สู่ระดับ 353,900 ดอลลาร์
  • (+) กรรมการคาด ECB อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วสุดในช่วงสิ้นปีหน้า  นายโรเบิร์ต โฮลซแมน กรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันนี้ (22 ธ.ค.) ว่า ECB อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในช่วงสิ้นปีหน้า และการเรียกร้องให้ ECB ยุติการซื้อพันธบัตรนั้นนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่แข็งแกร่งว่า การซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงในช่วง 2 ไตรมาสหน้า
  • (-) สหรัฐเผย GDP Q3/64 ขยายตัว 2.3% สูงกว่าประมาณการครั้งที่สอง  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่สองที่ระดับ 2.1% และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.1% ตามประมาณการครั้งที่สอง  ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจกิจสหรัฐเติบโต 6.7% ในไตรมาส 2 และ 6.3% ในไตรมาส 1

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More