- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย $1,667-1,671

จุดทำกำไร    ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,631-1,614

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,688

แนวรับ : 1,631 1,614 1,600  แนวต้าน : 1,671 1,688 1,707

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง -21.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาทองคำจะเกิดการฟื้นตัวในวันก่อนหน้า แต่เป็นอีกครั้งที่ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยราคาทองคำเผชิญกับปัจจัยลบต่างๆ ได้แก่

(1.) การแข็งค่าต่อเนื่องของดัชนีดอลลาร์หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ออกมาร้อนแรงเกินคาดในวันพฤหับสดี ขณะที่วันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของม.มิชิแกนปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 59.8 ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังคาดการณ์อีกว่าเงินเฟ้อในช่วง 1 และ 5 ปีข้างหน้าจะปรับตัวสูงขึ้นแตะ 5.1% และ 2.9% ตามลำดับ โดยสูงกว่าผลการสำรวจในเดือนก.ย. ที่ระดับ 4.7% และ 2.7% ตามลำคับ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป สะท้อนจาก Money markets ที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะแตะระดับสูงสุดที่ 4.96% ภายในเดือนมี.ค. 2023 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 25 bps จากการคาดการณ์ในช่วงก่อนการเปิดเผยตัวเลข CPI

(2.) เงินปอนด์ร่วงลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ หลังนางลิซ ทรัสส์นายกรัฐมนตรีของอังกฤษสั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษออกจากตำแหน่ง และ

(3.) แรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่ในยูเครน พร้อมทั้งระบุว่า รัสเซียไม่ได้จ้องที่จะทำลายยูเครน ซึ่งตลาดตีความว่าประธานาธิบดีปูตินทีท่าทีที่อ่อนลง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.18 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index)

- Advertisement -

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ย.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.  ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 403.89 จุด วิตกเงินเฟ้อ-เศรษฐกิจถดถอยถ่วงตลาด  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันศุกร์ (14 ต.ค.) โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป และอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,634.83 จุด ลดลง 403.89 จุด หรือ -1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,583.07 จุด ลดลง 86.84 จุด หรือ -2.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,321.39 จุด ลดลง 327.76 จุด หรือ -3.08%
• (+) “สี จิ้นผิง” ยันมุ่งมั่นรวมชาติกับไต้หวัน ย้ำพร้อมใช้กำลังหากจำเป็น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้กล่าวในการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 โดยเน้นย้ำว่าจีนมุ่งมั่นที่จะรวมประเทศกับไต้หวัน และการแก้ปัญหาไต้หวันเป็นเรื่องของชาวจีน อย่างไรก็ตามจะไม่มีทางปฏิเสธสิทธิที่จะใช้กำลังเพื่อนำไต้หวันกลับมา ปธน.สีกล่าวว่า “เราจะยังคงพยายามเพื่อการรวมชาติอย่างสันติด้วยความจริงใจและพยายามอย่างที่สุด แต่เราจะไม่มีทางสัญญาที่จะยกเลิกการใช้กำลังนำไต้หวันกลับมาและสงวนทางเลือกสำหรับใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดไว้ สิ่งนี้มุ่งเป้าไปที่การแทรกแซงจากภายนอกและผู้แบ่งแยกดินแดนไม่กี่รายที่ต้องการ ‘เอกราชของไต้หวัน’ ไม่ได้มีเป้าหมายที่เพื่อนร่วมชาติชาวไต้หวัน พร้อมเสริมว่า “การรวมประเทศจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” 
• (-) “ปูติน” ชี้ไม่จำเป็นต้องระดมโจมตียูเครนครั้งใหม่ หลังบรรลุเป้าหมายส่วนใหญ่  ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์ (14 ต.ค.) ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่ในยูเครน พร้อมทั้งระบุว่า รัสเซียไม่ได้จ้องที่จะทำลายยูเครน  “เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำลายยูเครน ไม่ใช่แน่นอน ไม่มีความจำเป็นสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่ในขณะนี้ เนื่องจากมีการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ส่วนใหญ่แล้ว” ปธน.ปูตินกล่าว  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐปรับตัวขึ้นในการซื้อขายระหว่างวันในวันศุกร์ โดยขานรับความเห็นดังกล่าวของปธน.ปูติน เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์ตีความว่า ความเห็นดังกล่าวเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์    ปธน.ปูตินยังได้กล่าวในการแถลงข่าวหลังสิ้นสุดการประชุมสุดยอดในคาซัคสถานว่า การเกณฑ์ทหารในรัสเซียจะสิ้นสุดลงภายใน 2 สัปดาห์ และไม่มีแผนการที่จะระดมพลเพิ่มอีก  นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังได้ย้ำถึงจุดยืนของเขาว่า รัสเซียเต็มใจที่จะจัดการเจรจา แม้เขาระบุว่า การเจรจาต้องอาศัยการไกล่เกลี่ยของนานาชาติหากยูเครนเตรียมที่จะเข้าร่วม
• (-) ดอลล์แข็งค่า ขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (14 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงบ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูง และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.84% แตะที่ระดับ 113.3090  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 148.67 เยน จากระดับ 147.17 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0051 ฟรังก์ จากระดับ 0.9989 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3884 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3734 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9729 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9791 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1169 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1321 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าแตะที่ระดับ 0.6204 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6304 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.  ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 58.6 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 59.0  ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.1% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย.  สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.9% โดยสูงกว่าระดับ 2.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย.
• (+/-) “เจเรมี ฮันท์” นั่งเก้าอี้รมว.คลังอังกฤษคนใหม่  นายเจเรมี ฮันท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ หลังจากที่นายควาซี กวาร์เต็ง ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ 

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -