- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อ $1,771-1,754

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,794-1,784

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากผ่าน $1,754

แนวรับ : 1,771 1,754 1,736  แนวต้าน : 1,794 1,807 1,825

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงมากถึง 23.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลักจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ จากแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากวานนี้จีนเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5%

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวขึ้นเพียง 3.8% “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.6% เช่นกัน ประกอบกับธนาคารกลางจีน (PBOC) สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับ “ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบายเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีและปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repurchase ประเภท 7 วันได้กดดันเงินหยวนให้อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์จนเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าในอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนได้กระตุ้นความกังวลว่าอุปสงค์ทองคำจากจีนซึ่งถือเป็นผู้บริโภคทองคำที่มากที่สุดในโลกจะชะลอตัวลง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเพิ่มเติม ส่งผลให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,772.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวลดลงช่วงติดลบในช่วงตลาดสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงสู่ระดับ -31.3 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +5.0 แต่การแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ทำให้การปรับตัวขึ้นของทองคำเป็นไปอย่างจำกัด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.03 ตัน

สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน, อัตราการใช้กำลังผลิตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

• (+) เฟดนิวยอร์คเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนส.ค.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนส.ค.  ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ -31.3 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +5.0 จากระดับ +11.1 ในเดือนก.ค.
• (+) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลงเป็นเดือนที่ 8   สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 6 จุด สู่ระดับ 49 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8  นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ
• (+) รัสเซียระดมโจมตีภาคตะวันออก-ภาคใต้ยูเครน  กองทัพยูเครนรายงานในวันจันทร์ว่า ทหารรัสเซียใช้ปืนใหญ่ยิงโจมตีใส่หลายพื้นที่ในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน และบางเมืองในภาคใต้ รวมทั้งหมู่บ้านรอบ ๆ เมืองเคอร์ซอน เมืองมีโคลาอีฟ และเมืองซาปอริห์เชีย  ที่เมืองซาปอริห์เชีย ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นบริเวณรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองนี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างยังคงกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้ยิงอาวุธใส่พื้นที่ไม่ห่างจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ซึ่งถูกรัสเซียยึดไว้เมื่อเดือนมีนาคม
• (+) จีนเพิ่มซ้อมรบรอบไต้หวัน ตอบโต้ผู้แทนอเมริกันเยือนไทเป!  กองทัพจีนเพิ่มการซ้อมรบใกล้ไต้หวันในวันจันทร์ ในขณะที่คณะผู้แทนจากสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงไทเปและพบปะกับประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน ซึ่งทางรัฐบาลกรุงปักกิ่งเรียกว่าเป็น “การละเมิดอำนาจอธิปไตย”
• (-) ดอลล์แข็งค่า นลท.รุกซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังกังวลเศรษฐกิจจีน  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.87% แตะที่ระดับ 106.5450  ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9468 ฟรังก์ จากระดับ 0.9417 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2909 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2777 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.31 เยน จากระดับ 133.49 เยน  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0157 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0269 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2055 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2141 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7021 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7129 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 151.39 จุด รับความหวังเฟดคุมเงินเฟ้อสำเร็จ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (15 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประสบความสำเร็จให้การควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,912.44 จุด เพิ่มขึ้น 151.39 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,297.14 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,128.05 จุด เพิ่มขึ้น 80.87 จุด หรือ +0.62%
• (-) เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ใน Q3/65   ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.4% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้
• (-) อิหร่านเผยการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์มีความคืบหน้า  อิหร่านเปิดเผยว่า การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์รอบล่าสุดที่กรุงเวียนนามีความคืบหน้า และจะมีการบรรลุข้อตกลง หากชาติมหาอำนาจ “ไม่ล้ำเส้นแดง” ของอิหร่าน  “เราใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว แต่อยู่บนเงื่อนไขที่ว่าเส้นแดงของอิหร่านจะต้องได้รับการยอมรับ และอิหร่านสามารถปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ” นายนาสเซอร์ คานาอานนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าว

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -