Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 ส.ค.65 by YLG

- Advertisement -

1,424

- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อ $1,771-1,782

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,807-1,802

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากผ่าน $1,754

แนวรับ : 1,771 1,754 1,736  แนวต้าน : 1,807 1,825 1,840

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. บริเวณ 2.902% ที่ขึ้นไปทดสอบในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ของสหรัฐชะลอตัวลงเกินคาด

ล่าสุดในวันศุกร์สหรัฐเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งลดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ในขณะที่ผลสำรวจของม.มิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า

โดยต่ำกว่าระดับ 5.2% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านราคาอาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวกดดันบอนด์ยีลด์ระยะยาวให้ร่วงลงจนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยให้ทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,802.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของทองคำถูกสกัดช่วงบวกจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่า ขานรับความเห็นในเชิง Hawkish ของนายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดริชมอนด์ ที่กล่าวกับ CNBC ในวันศุกร์ว่า เขาต้องการเห็นช่วงเวลาที่เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม และจนกว่าจะถึงจุดนั้นเขาคิดว่าเฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับตึงตัว (restrictive territory) ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.45 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index) และ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยโดย NAHB รวมถึงถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

  • (+) สหรัฐเผยดัชนีราคานำเข้าลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ค.  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.0% ในเดือนก.ค.
  • (+) สมาชิกสภาคองเกรสตบเท้าเดินทางเยือนไต้หวัน  คณะผู้แทนสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันในวันอาทิตย์ หรือ 12 วันหลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.แนนซี เพโลซี เสร็จสิ้นการเยือนกรุงไทเปที่ทำให้จีนไม่พอใจและสั่งดำเนินการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน  สำนักข่าวเอพี รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ของไต้หวันเผยแพร่คลิปภาพของเครื่องบินรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะลงจอดที่สนามบินไทเปซงซาน เมื่อเวลา 19.00 นาฬิกาของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น  คณะผู้แทนที่นำทีมโดย วุฒิสมาชิก เอ็ด มาร์คีย์ สมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ และร่วมด้วย ส.ส.สมาชิกพรรคเดโมแครตอีก 3 คนและ ส.ส.สมาชิกพรรครีพับลิกัน 1 คน มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกรุงไทเป รวมทั้งตัวแทนจากภาคธุรกิจ ในวันจันทร์ เพื่อหารือประเด็นผลประโยชน์ร่วมกันซึ่งรวมถึง การลดความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันและการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
  • (-) ดอลลาร์แข็งค่า หลังจนท.เฟดหลายรายยังหนุนปรับขึ้นดอกเบี้ย  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (12 ส.ค.) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายยังคงแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีสัญญาณว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงก็ตาม  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ระดับ 105.6310  ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 133.49 เยน จากระดับ 132.95 เยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9417 ฟรังก์ จากระดับ 0.9419 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2777 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2760 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0269 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0327 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าสู่ระดับ 1.2141 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2201 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7129 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7107 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 424.38 จุด ขานรับเงินเฟ้อลด-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่ม  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (12 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณเงินเฟ้อที่ลดลง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาวะตลาดกระทิงอาจจะดำเนินต่อไป ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน  ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,761.05 จุด เพิ่มขึ้น 424.38 จุด หรือ +1.27%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,280.15 จุด เพิ่มขึ้น 72.88 จุด หรือ +1.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,047.19 จุด เพิ่มขึ้น 267.27 จุด หรือ +2.09%
  • (-) อิหร่านส่งสัญญาณใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ  สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่า อิหร่านพร้อมยอมรับข้อเสนอจากสหภาพยุโรป (EU) ในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หากข้อเสนอดังกล่าวสามารถให้การค้ำประกันข้อเรียกร้องของอิหร่าน  เจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่า รัฐบาลอิหร่านกำลังพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งหากสามารถสร้างความมั่นใจต่ออิหร่านในประเด็นการคว่ำบาตร การปกป้อง และการค้ำประกัน อิหร่านก็พร้อมยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
  • (+/-) จับตาประชุมแจ็กสันโฮลเดือนนี้ คาด “พาวเวล” ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยเฟด  นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกต่างก็จับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ “Reassessing Constraints on the Economy and Policy”  การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟด เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ  สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ คาดว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงในเดือนก.ค.
  • (+/-) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ผู้บริโภคเพิ่มความเชื่อมั่น ขณะลดคาดการณ์เงินเฟ้อ  ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 ในเดือนส.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.5 จากระดับ 51.5 ในเดือนก.ค.  ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 5.2% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน  สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.0% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 2.9% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More