ทองปรับลดลง จากการพุ่งขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลงสู่แนวรับ 1,940 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี นอกจากนี้นักลงทุนเทขายทองคำจากการคาดหวังการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนรอบที่ 4 อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อสรุป และจะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 10.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี จาก 9.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.5 จาก 3.1 ในเดือนก.พ.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลงสู่แนวรับ 1,940 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,940 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,930 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,970 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | Support | Resistance |
1,952.50 | 1,940/1,930 | 1,970/1,980 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | Support | Resistance |
31,050 | 30,700/30,500 | 31,150/31,300 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | Support | Resistance |
31,140 | 30,860/30,620 | 31,340/31,420 |
สำหรับการเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,940 ดอลลาร์ (GF 30,860 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,930 ดอลลาร์ (GF 30,620 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | Support | Resistance |
1,953.70 | 1,942/1,932 | 1,972/1,982 |
สำหรับการเข้าซื้อราคา GOH22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,942 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,932 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางภูมิภาค ขณะที่ตลาดมีความกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันพุ่งสูง และสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่อาจมีการล็อคดาว์น จะกระทบการท่องเที่ยวในไทย ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าอ่อนค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 33.11 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์
News
ผลสำรวจชึ้ผู้ผลิตอังกฤษที่ปรับขึ้นราคาสินค้ามีจำนวนสูงสุดตั้งแต่ปี 2543
ผลสำรวจเปิดเผยว่า ผู้ผลิตในอังกฤษที่ปรับขึ้นราคาสินค้านั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งตอกย้ำถึงความท้าทายด้านเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องแบกรับ ข้อมูลจากผลสำรวจระบุว่า ผู้ผลิต 58% ปรับขึ้นราคาสินค้ามาตั้งแต่ต้นปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 52% ณ สิ้นปี 2564 โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 และยังเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลผลสำรวจราคาสินค้าเป็นครั้งแรกในปี 2543 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ราคาสินค้าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ในช่วงก่อนที่เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากรัสเซียบุกยูเครนก็ตาม ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดย Make UK ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมภาคการผลิตของอังกฤษ และ BDO บริษัทด้านบัญชี โดยเก็บข้อมูลจากบริษัท 287 แห่ง ในช่วงวันที่ 1-21 ก.พ. ที่ผ่านมา นายสตีเฟ่น ฟิปสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Make UK กล่าวว่า “ตอนนี้บริษัทเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมากซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการอยู่รอดของหลายบริษัท” นายฟิปสันยังเรียกร้องให้นายริชี ซูนัค รัฐมนตรีคลังอังกฤษใช้งบประมาณในแผนชุดใหม่ซึ่งจะประกาศวันที่ 23 มี.ค. เพื่อช่วยเหลือนายจ้างด้วยการผ่อนปรนภาษีและขยายเวลาในการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในปี 2566
“โกลด์แมน แซคส์” คาด GDP ยุโรปร่วง-เงินเฟ้อพุ่ง หากรัสเซียระงับส่งออกก๊าซ
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจยุโรป ในกรณีที่รัสเซียจำกัดหรือระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปเนื่องจากวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในยูเครน ก่อนหน้านี้ นายอเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียประกาศเตือนว่า รัสเซียอาจตัดสินใจระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้กับเยอรมนีและประเทศในยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 (Nord Stream 1) โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ปัจจุบันยุโรปใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตพลังงาน 25% และรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซราว 1 ใน 3 ที่ยุโรปนำเข้า ดังนั้น ผลกระทบใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อการนำเข้าก๊าซธรรมชาติของยุโรป จึงอาจส่งผลรุนแรงต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนได้ นายสเวน ยารี สเตห์น หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า “หลังจากประเมินข้อจำกัดด้านซัพพลายก๊าซธรรมชาติและแรงกดดันเชิงบวกต่อมูลค่าเพิ่มรวม (GVA) ในยูโรโซนและสหราชอาณาจักรแล้ว เราคาดว่าราคาก๊าซที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปรับตัวลดลง 0.6% สำหรับยูโรโซน และลดลง 0.1% สำหรับสหราชอาณาจักร เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมของเรา หากซัพพลายก๊าซธรรมชาติไม่ประสบปัญหาเพิ่มเติม” นายสเตห์นระบุว่า เยอรมนีซึ่งพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมากอาจได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ๆ โดยตัวเลขเศรษฐกิจอาจปรับลดลง 0.9% “ในกรณีที่รัสเซียระงับการส่งออกก๊าซให้กับยุโรปทั้งหมด ตัวเลข GDP ของยูโรโซนปีนี้อาจปรับตัวลดลง 2.2% จากคาดการณ์เบื้องต้นของเรา โดยเศรษฐกิจเยอรมนีและอิตาลีจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่อาจปรับลดลง 3.4% และ 2.6% ตามลำดับ” นายสเตห์นกล่าว
สหรัฐขู่จีนเจอผลลัพธ์แน่ หากช่วยรัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดประชุมกับนายหยาง เจียฉือ นักการทูตระดับสูงของจีน ณ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ได้ออกมากล่าวเตือนจีนว่า จีนจะเผชิญผลลัพธ์ “อย่างแน่นอน” หากช่วยให้รัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากกรณีทำสงครามในยูเครน เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐกล่าวว่า นายซัลลิแวนวางแผนแสดงข้อวิตกของสหรัฐให้ชัดเจนในระหว่างการร่วมประชุมกับนายหยาง ในขณะที่วางแผนตอบโต้และโดดเดี่ยวจีนจากทั่วโลก หากจีนสนับสนุนรัสเซียเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นใด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.