ทองคำปรับขึ้นจากความกังวลของสายพันธุ์โอมิครอน
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.
แนวโน้มราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,792ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลของสายพันธุ์โอมิครอน หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโอมิครอนรายแรกในประเทศ และวัคซีน 2 โดสไม่เพียงพอที่จะควบคุมไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของทองคำไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนรอการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่ง ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) การประชุมธนาคารกลางยุโรป ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. จะเพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,792 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,792 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวรับที่ 1,770 ดอลลาร์ และ 1,760 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,787.01 | +5.31 | 1,770/1,760 | 1,792/1,800 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,300 | -100 | 28,100/27,900 | 28,450/28,550 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,400 | +50 | 28,200/28,040 | 28,540/28,620 |
แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,200บาท)โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF28,040บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,788.90 | +3.70 | 1,771/1,761 | 1,793/1,801 |
แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาGOZ21ปรับขึ้นมาที่ 1,771 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,761ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าเป็นวันที่ 4 โดยตลาดรอปัจจัยจากการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25-33.53โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.25บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.53บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อพุ่ง
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปีทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 96.3125
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $3.5 เหตุวิตกโอมิครอนหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์หรือ 0.2% ปิดที่ 1,788.3 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2564 สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 13.3 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 22.328 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 38 เซนต์กังวลโอมิครอนฉุดดีมานด์ทรุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจทำให้หลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 38 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 76 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดร่วง 320.04 จุดวิตกไวรัสโอมิครอนระบาดหนัก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยล่าสุดอังกฤษยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโอมิครอนรายแรกในประเทศและเตือนว่าอังกฤษกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหญ่ของไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,650.95 จุดลดลง 320.04 จุดหรือ -0.89%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,668.97 จุดลดลง 43.05 จุดหรือ -0.91% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 15,413.28 จุดลดลง 217.32 จุดหรือ -1.39%
ผลวิจัยอิสราเอลชี้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มบูสเตอร์ช่วยป้องกันโอมิครอนได้
คณะนักวิจัยจากศูนย์การแพทย์ชีบาและศูนย์การทดลองด้านไวรัสวิทยาของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยผลการศึกษาระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ของบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน3เข็มสามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้อย่างมีนัยสำคัญสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการวิจัยครั้งนี้เปรียบเทียบตัวอย่างเลือดของกลุ่มตัวอย่าง20คนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ราว5-6เดือนก่อนกับกลุ่มตัวอย่าง20คนที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์เมื่อ1เดือนก่อนโดยกิลีเรเกฟ-โยเชย์ผู้อำนวยการฝ่ายโรคติดต่อของศูนย์การแพทย์ชีบาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่ากลุ่มตัวอย่างแรกนั้นไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนแต่ยังมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาอยู่บ้าง “ข่าวดีคือการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันส่วนนี้เพิ่มขึ้นราว100เท่าหรือสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญถึงแม้ว่าประสิทธิภาพจะยังต่ำกว่าการป้องกันสายพันธุ์เดลตาราว4เท่าก็ตาม” เรเกฟ-โยเชย์กล่าวงานวิจัยจากอิสราเอลครั้งนี้มีขึ้นหลังจากแอฟริกาใต้เผยแพร่ผลการทดลองซึ่งระบุว่าเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอนนั้นสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนครบสองโดสทั้งนี้ผลวิจัยของอิสราเอลสอดคล้องกับข้อมูลของบริษัทไฟเซอร์ที่ระบุว่าการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์อาจเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อจากโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอน
“เฟาชี” เผยการฉีดวัคซีนโควิดจำนวน 3 เข็มคือการปกป้องที่ดีที่สุด
นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week With George Stephanopoulos” ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 3 โดสคือ “การปกป้องที่ดีที่สุด” อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค หรือโมเดอร์นา จำนวน 2 โดส หรือวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) จำนวน 1 โดส ยังคงเป็นข้อกำหนดการฉีดวัคซีนครบโดสอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐ นายแพทย์เฟาชีเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะยังคงประเมินต่อไปว่าจะให้การฉีดวัคซีน 3 เข็มเป็นมาตรฐานใหม่ของการฉีดครบโดสหรือไม่ โดยเขากล่าวกับจอร์จ สเตฟาโนโพลอส ผู้ดำเนินรายการของ ABC ว่า “ผมคิดว่านะจอร์จ การฉีดวัคซีนจำนวน 3 โดนคือปกป้องที่ดีที่สุด” “สำหรับข้อกำหนดอย่างเป็นทางการว่าฉีดครบโดสแล้ว จะยังคงเป็นการฉีด mRNA (ไฟเซอร์/ไบออนเทคหรือโมเดอร์นา) 2 เข็ม กับฉีด J&J 1 เข็ม แต่ถ้าคุณดูข้อมูลให้ดี ๆ ก็จะเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าถ้าอยากจะได้รับการป้องกันอย่างดีที่สุด คุณก็ควรจะฉีดเข็มบูสเตอร์” นายแพทย์เฟาชีกล่าวกับนายจอร์จ สเตฟาโนโพลอส ทั้งนี้ นายแพทย์เฟาชีกล่าวว่า ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนจึงจะบอกได้ว่าต้องฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์กันใหม่ทุกปีหรือไม่ และส่วนตัวเขาเองเมื่อมองในแง่ภูมิคุ้มกันวิทยาแล้วก็หวังว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มเดียวจะสามารถป้องกันโควิดได้นานกว่าวัคซีน 2 เข็มแรกซึ่งได้ป้องกันได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น
“บอริสจอห์นสัน” เตือนอังกฤษเผชิญคลื่นยักษ์ไวรัสโอมิครอนเร่งปูพรมฉีดวัคซีนบูสเตอร์
นายบอริสจอห์นสันนายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนว่าอังกฤษกำลังเผชิญกับ “คลื่นยักษ์” ของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอนและวัคซีน2โดสไม่เพียงพอที่จะควบคุมไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวพร้อมกับกล่าวว่ารัฐบาลอังกฤษกำลังเร่งโครงการปูพรมฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้กับประชาชน “คลื่นยักษ์ของไวรัสโอมิครอนกำลังจะมาผมเกรงว่าวัคซีนเพียง2โดสไม่เพียงพอที่จะป้องกันเนื่องจากไวรัสโอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสสายพันธุ์อื่นๆด้วยเหตุนี้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS) อาจจะเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหากไวรัสโอมิครอนแพร่ระบาดในกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ “
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.