ทองคำปรับลดลง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร
ทองคำในช่วงระหว่างวันคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลดลง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่ง แต่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 1.49 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.95 ล้านตำแหน่งจาก 10.93 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ส่วนคืนพรุ่งนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMCและสหรัฐจะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำในช่วงระหว่างวันคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยทองคำขาดปัจจัยที่เข้ามากระทบ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์และ 1,737 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,760 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,753.60 | -3.03 | 1,745/1,737 | 1,760/1,770 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,150 | -50 | 27,850/27,750 | 28,050/28,200 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,090 | -160 | 28,020/27,900 | 28,170/28,330 |
แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคาทองคำ Spot1,745ดอลลาร์ (GF28,020บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,737 ดอลลาร์ (GF27,900บาท) รวมทั้งเปิดสถานะขายที่ราคาทอง Spot1,770 ดอลลาร์(GF28,330 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,756.50 | +0.10 | 1,748/1,740 | 1,763/1,773 |
แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOZ211,748ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740ดอลลาร์รวมทั้งเปิดสถานะขายที่ราคา GOZ211,773ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.60 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.90 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดลดQE แม้จ้างงานซบเซา
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนหน้าแม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดก็ตามดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.26% แตะที่ 94.3165 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $1.7 เหตุดอลล์แข็ง-กังวลเฟดลดQE
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์หรือ 0.1% ปิดที่ 1,755.7 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4 เซนต์หรือ 0.18% ปิดที่ 22.665 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก $1.17 รับดีมานด์ฟื้น-อุปทานตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่สูงขึ้นหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ภาวะอุปทานตึงตัวที่เกิดขึ้นในหลายประเทศรวมทั้งจีนและอินเดียยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์หรือ 1.5% ปิดที่ 80.52 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์หรือ 1.5% ปิดที่ 83.65 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดร่วง 250.19 จุดวิตกน้ำมันพุ่งฉุดผลประกอบการ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชนและการใช้จ่ายของผู้บริโภคนอกจากนี้นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกนเชสดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.06 จุดลดลง 250.19 ขุดหรือ -0.72% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,361.19 จุดลดลง 30.15 จุดหรือ -0.69% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,486.20 จุดลดลง 93.34 จุดหรือ -0.64%
“เฟาชี” เตือนปชช.อย่าชะล่าใจหลังยอดโควิดลดแนะการ์ดอย่าตกช่วงฮัลโลวีน
นายแพทย์แอนโทนีเฟาชีแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19ของทำเนียบขาวแสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับการรับมือโควิด-19ของสหรัฐโดยระบุว่าสถิติการระบาดมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงทั่วประเทศอย่างไรก็ดีนายแพทย์เฟาชีได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวังกันต่อไปเนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถประกาศชัยชนะได้ในหลายๆด้าน” นายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวCNN เมื่อวานนี้โดยได้เตือนว่า “ยังมีประชาชนอีก68ล้านคนที่เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนแต่ยังไม่ได้รับวัคซีนคุณเฝ้ารอคอยช่วงเทศกาลวันหยุดเพื่อใช้เวลากับครอบครัวและทำกิจกรรมด้วยกันแต่อย่าเพิ่งการ์ดตกและบอกว่ามันจบแล้ว… หากคุณดูสถานการณ์การระบาดและยอดผู้ติดเชื้อที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขดังกล่าวอาจกลับมาเพิ่มขึ้นอีก” ผู้สื่อข่าวของCNN ได้หยิบยกเทศกาลฮัลโลวีนในระหว่างสัมภาษณ์พร้อมกับถามว่าหากผู้ปกครองและบุตรหลานจะเล่นทริกออร์ทรีต (Trick or Treat) จะปลอดภัยหรือไม่เพราะมีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่ไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรคุณมีคำแนะนำในเรื่องนี้อย่างไรโดยนายแพทย์เฟาชีตอบว่า “คุณสามารถทำได้ในช่วงเทศกาลฮัลโลวีนโดยเฉพาะหากฉีดวัคซีนแล้ว” พร้อมทั้งแนะนำให้คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนให้เข้ารับวัคซีนด้วย “หากคุณยังไม่ฉีดวัคซีนขอให้คิดดูให้ดีว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยเสริมเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่งให้ตัวคุณเองลูกๆคนในครอบครัวและชุมชนของคุณด้วยนี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะชี้ให้เห็นว่าเพราะเหตุใดการฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณยังออกไปทำกิจกรรมและสนุกกับเทศกาลฮัลโลวีนได้รวมถึงเทศกาลอื่นๆที่จะตามมา”
“เยลเลน” หวังคองเกรสเห็นชอบข้อตกลงกำหนดภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก
นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่าเธอคาดหวังว่าสภาคองเกรสแห่งสหรัฐจะอนุมัติข้อตกลงการกำหนดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศและเขตปกครองจำนวน136แห่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานางเยลเลนกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า ” ฉันมั่นใจว่าสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงภาษีขั้นต่ำจะรวมอยู่ในแผนการใช้จ่ายที่ทำเนียบขาวและสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตกำลังเจรจากันอยู่ในขณะนี้ “ฉันหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติและเราจะสร้างความมั่นใจให้แก่โลกว่าสหรัฐจะทำหน้าที่ของตน” นางเยลเลนกล่าว
โกลด์แมนแซคส์หั่นคาดการณ์GDP สหรัฐปีนี้-ปีหน้าเหตุโควิดฉุดการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัว
โกลด์แมนแซคส์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี2564ลงสู่ระดับ5.6%จากระดับ5.7%เมื่อเทียบเป็นรายปีและปรับลดGDP ในปี2565ลงสู่ระดับ4%จากระดับ4.4%โดยระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้และคาดว่ามาตรการสนับสนุนด้านการคลังของสหรัฐจะชะลอตัวลงจนถึงสิ้นปี2565ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ซึ่งรวมถึงแจนแฮทเซียสเปิดเผยในรายงานคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดที่ยาวนานของไวรัสโควิด-19ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้านการบริการผู้บริโภคในสหรัฐส่วนปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์นั้นคาดว่าจะยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลงจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี2565ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนประสบกับความล่าช้าในการเติมสต็อกสินค้าจนถึงปีหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ยังกล่าวด้วยว่าในระยะกลางนี้คาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19จะส่งให้การใช้จ่ายด้านการบริการและการซื้อสินค้ายังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาคเอกชนปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการทำงานทางไกลก็จะยิ่งทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงด้วย
“เยลเลน” มั่นใจสภาคองเกรสไฟเขียวเพิ่มเพดานหนี้ช่วยสหรัฐเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้
นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่าการเพิ่มเพดานหนี้เป็นความรับผิดชอบของสภาคองเกรสและเธอมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วสภาคองเกรสอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์นางเยลเลนกล่าวว่าขณะนี้ร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งเธอเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วสภาผู้แทนราษฎรจะให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวและส่งให้ประธานาธิบดีโจไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนกำหนดเส้นตายวันที่18ต.ค.นี้นอกจากนี้เธอเชื่อว่าสภาคองเกรสจะให้การอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้อีกครั้งหลังวันที่3ธ.ค.นี้ “เมื่อสภาคองเกรสและคณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายและภาษีดิฉันก็เชื่อว่าพวกเขาจะแสดงความรับผิดชอบกับผลที่ตามมานั่นคือการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลและแน่นอนว่าเราควรมีการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายการคลังของรัฐบาลด้วย” นางเยลเลนกล่าวนางเยลเลนกล่าวว่าหากสภาคองเกรสไม่เพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ก็จะส่งผลให้บางประเทศลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐและทำให้ความต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ลดลงด้วยซึ่งอาจเปิดทางให้สกุลเงินหยวนของจีนเข้ามามีบทบาทแทนสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก “ดิฉันมั่นใจว่านางแนนซีเพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและนายชัคชูเมอร์ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้หากเกิดความขัดแย้งในสภาคองเกรสเพื่อที่สหรัฐจะไม่เผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านี้” นางเยลเลนกล่าวในรายงานThis Weekทั้งนี้เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาลและการใช้จ่ายอื่นๆ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.