Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 3 ก.ย.63 (HGF)

- Advertisement -

0 505

- Advertisement -

ทองคำลดลงแรง จากเงินดอลลาร์แข็งค่าตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรง

คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว

  • ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับลดลงแรง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าและตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นแรง โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 454 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. และดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นทำนิวไฮ ขณะที่การจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 428,000ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 1.25ล้านตำแหน่ง แต่ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่าตลาด ทำให้ไม่ช่วยหนุนราคาทองคำทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อวานขายทองคำ0.59 ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 955,000 ราย ดุลการค้าเดือนก.ค. ตลาดคาดจะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 5.82 หมื่นล้านดอลลาร์ จากขาดดุล5.07 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 57.0 จาก 58.1 ในเดือนก.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัว โดยมีแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไป 1,973 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์และ1,900 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,942.40-27.21,930/1,9001,950/1,973

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
29,100-5028,600/28,20028,900/29,200

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,880-43028,770/28,35029,070/29,390

- Advertisement -

แนะนำซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์ (GF28,770บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์ (GF 28,650 บาท)

การลงทุนในทองแท่ง การเข้าซื้อแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,930 และ 1,900 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,943.90-22.801,930/1,9001,950/1,973

แนะนำซื้อเมื่อราคาGOU20ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเริ่มทรงตัวแต่มองว่าอาจจะอ่อนค่าลงได้ในช่วงปลายสัปดาห์เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ และมีปัจจัยการเมืองในประเทศกดดันต่อเงินบาทซึ่ง USD Futures เดือนก.ย.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.40 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักรับปัจจัยบวกภาคการผลิตสดใส

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) โดยดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตสหรัฐขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.53% แตะที่ระดับ 92.8489 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดร่วง $34.2 เหตุดอลล์แข็ง,นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังหุ้นพุ่ง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้ราคาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลงนอกจากนี้การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งยังทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 34.2 ดอลลาร์หรือ 1.73% ปิดที่ 1,944.7   ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.25 ดอลลาร์หรือ 4.36% ปิดที่ 27.395 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันปิดร่วง $1.25 หลังการผลิตน้ำมันอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนลอราโดยข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันหลายสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์หรือ 2.9% ปิดที่ 41.51 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.15 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 454.84 จุดรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย,หุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 450 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.ปีนี้ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaq เดินหน้าทำนิวไฮเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภคขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่องท่ามกลางความหวังที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่ประชาชนต้องพึ่งพาระบบออนไลน์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,100.50 จุดเพิ่มขึ้น 454.84 จุดหรือ +1.59% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,580.84 จุดเพิ่มขึ้น 54.19 จุดหรือ +1.54% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,056.44 จุดเพิ่มขึ้น 116.77 จุดหรือ +0.98%

“ทรัมป์” ย้ำสหรัฐต้องได้ค่าตอบแทนจากดีลขายกิจการTikTok

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐทราบว่าการดำเนินการดังกล่าวจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้และรัฐบาลกลางของสหรัฐจะต้องได้รับค่าตอบแทนมิฉะนั้นการให้บริการของติ๊กต็อกจะถูกระงับโดยสิ้นเชิงปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปยังเมืองเคโนชารัฐวิสคอนซินว่า “ผมบอกพวกเขาแล้วว่าธุรกรรมการขายกิจการติ๊กต็อกจะมีเวลาแค่ถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้เท่านั้นและผมยังบอกด้วยว่าสหรัฐจะต้องได้ค่าตอบแทนที่ดี”  อย่างไรก็ดียังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสหรัฐจะเรียกเก็บค่าตอบแทนจากการขายกิจการติ๊กต็อกอย่างไรทั้งนี้ปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้ไบต์แดนซ์ขายธุรกิจติ๊กต็อกในสหรัฐเนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยติ๊กต็อกซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนั้นมีผู้ใช้งานราว 100 ล้านคนต่อเดือนในสหรัฐปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาที่จะห้ามการทำธุรกรรมใดๆกับติ๊กต็อกและไบแดนซ์ภายใน 45 วันหากไม่สามารถขายกิจการได้ทันภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ดังนั้นติ๊กต็อกจึงต้องเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ที่จะต้องปิดให้บริการในสหรัฐหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการขายกิจการสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าไบต์แดนซ์ได้จัดทำแผนการชดเชยให้กับพนักงานและผู้ค้าของติ๊กต็อกในสหรัฐในกรณีที่มีการระงับบริการด้วยและได้ดำเนินการระงับการจ้างงานใหม่ในสหรัฐแล้วอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนต่างๆ

สหรัฐแจ้งเตือนทั่วโลกระวังเกาหลีเหนือเร่งจัดซื้ออุปกรณ์สนับสนุนโครงการขีปนาวุธ

รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งเตือนบริษัททั่วโลกให้ระมัดระวังเกาหลีเหนือที่กำลังพยายามจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับโครงการขีปนาวุธโดยเตือนว่าแม้แต่ยานพาหนะที่ใช้ในการป่าไม้ก็สามารถแปลงเป็นฐานยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่ได้    “เราเรียกร้องให้ภาคเอกชนยังคงจับตามองความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์เกี่ยวกับขีปนาวุธ” กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุพร้อมเสริมว่าบริษัทต่างๆอาจเสี่ยงที่จะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและสหประชาชาติ (UN) ในเรื่องการช่วยเหลือเกาหลีเหนือแม้จะไม่ตั้งใจก็ตามสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าคำแนะนำดังกล่าวออกโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่างประเทศกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐโดยมีใจความว่าเกาหลีเหนือพึ่งพาส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธจากต่างประเทศและใช้เครือข่ายเจ้าหน้าที่จัดซื้อในต่างประเทศที่กว้างขวางรวมถึงเจ้าหน้าที่คณะการทูตของเกาหลีเหนือและประเทศที่สามด้วยแถลงการณ์ระบุว่าสินค้าบางอย่างที่เกาหลีเหนือนำเข้ามีแนวโน้มจะนำไปใช้สำหรับโครงการขีปนาวุธเช่นยานพาหนะขนาดใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นฐานยิงขีปนาวุธได้เช่นเดียวกับเหล็กและอลูมิเนียม   “องค์กรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ระบุไว้ควรจัดการให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของตนเองจะไม่ได้ส่งไปยังเกาหลีเหนือและองค์กรของเกาหลีเหนือ” แถลงการณ์ระบุนอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าสหรัฐมุ่งมั่นที่จะทำลายเครือข่ายการจัดหาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและส่งเสริมความรับผิดชอบขององค์กรและตัวบุคคลที่ให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือโดยไม่คำนึงถึงสถานที่ตั้งหรือความจงรักภักดีต่อชาติ

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More