กองทุน SPDR ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขายอีก 10.21 ตัน
คืนนี้สหรัฐจะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว
แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,860 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับตัวขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “American Rescue Plan” วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 965,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 785,000 ราย แต่มีปัจจัยลบจากแรงเทขายทองคำของกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขายทองคำ 10.21 ตันเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ตลาดคาดจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนม.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.7 จากระดับ 4.9 ในเดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ตลาดคาดจะลดลงเป็น 79.5 จากระดับ 80.7 ในเดือนธ.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,835-1,860 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,835 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,845.90 | +1.60 | 1,835/1,820 | 1,860/1,880 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
26,200 | -150 | 26,100/25,950 | 26,400/26,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
26,390 | +50 | 26,250/26,040 | 26,520/26,760 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคาทอง Spot 1,835 ดอลลาร์ (GF 26,250 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,825 ดอลลาร์ (GF 26,120 บาท)
การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,820 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,847.50 | +2.10 | 1,840/1,825 | 1,865/1,885 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวที่ราคา GOH21 1,840 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,830 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2% และสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 965,000 ราย สูงกว่าตลาดคาด สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ : ดอลล์อ่อน หลังสหรัฐเผยข้อมูลแรงงานซบเซา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 90.2400 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ 3.5 ดอลล์ เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1,851.4 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 25.802 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดบวก 66 เซนต์ รับความหวังวัคซีนหนุนดีมานด์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การที่หลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ จะช่วยให้เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 53.57 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 56.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดลบ 68.95 จุด วิตกข้อมูลแรงงานสหรัฐซบเซา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ โดยข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,991.52 จุด ลดลง 68.95 จุด หรือ -0.22% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.54 จุด ลดลง 14.30 จุด หรือ -0.38% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,112.64 จุด ลดลง 16.31 จุด หรือ -0.12%
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.