Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 14 ธ.ค.63 (HGF)

- Advertisement -

260

- Advertisement -

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,825-1,850ดอลลาร์

  • สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot ปรับขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19  ซึ่งนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา คาดว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยขายทองคำ 6.71 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ การเจรจาข้อตกลงอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)และความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่ามีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม 0-0.25% ที่สำคัญติดตามแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot ระยะสั้นคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,825-1,850ดอลลาร์ โดยมีแนวรับที่ 1,825 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,875 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

- Advertisement -

Closechg.SupportResistance
1,837.50+1.41,825/1,8001,850/1,875

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
26,250+10026,000/25,70026,350/26,650

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
26,210-39026,170/25,85026,490/26,820

- Advertisement -

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,825 ดอลลาร์ (GF26,530 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 26,430 บาท)

การลงทุนในทองแท่งแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,825ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,834.40-26.901,825/1,8001,850/1,875

แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,825 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์

เงินบาท

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30-30.20  บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และนักลงทุนกังวลว่าอังกฤษอาจจะต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) สำหรับ USD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งค่านลท.ซื้อสกุลเงินปลอดภัยขณะวิตกแนวโน้มเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.17% สู่ระดับ 90.9726

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $6.2 นลท.เข้าซื้อหลังกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐ, ความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลงการค้า (no-deal Brexit) รวมถึงสัญญาณเงินเฟ้อจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในสหรัฐสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.2 ดอลลาร์หรือ 0.34% ปิดที่ 1,843.6 ดอลลาร์/ออนซ์และปรับตัวขึ้น 0.2% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 21 เซนต์แรงขายทำกำไรถ่วงราคาลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) อันเป็นผลจากแรงขายทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแต่สัญญาน้ำมันดิบก็ยังคงปรับตัวขึ้นได้ในรอบสัปดาห์นี้เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวและจะมีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้นหลังจากที่มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในประเทศต่างๆสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 21 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 46.57 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้นราว 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 28 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 49.97 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่เพิ่มขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน

ตลาดหุ้นต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดบวก 47.11 จุดนลท.รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaq ปิดลดลงเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐนั้นยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,046.37 จุดเพิ่มขึ้น 47.11 จุดหรือ +0.16% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,663.46 จุดลดลง 4.64 จุดหรือ -0.13% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,377.87 จุดลดลง 27.94 จุดหรือ -0.23%   ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.57%, ดัชนีS&P500 ปรับตัวลง 0.96% และดัชนีNasdaq ติดลบ 0.69% ขณะที่การลดลงของดัชนีS&P500 และNasdaq ในสัปดาห์นี้เป็นการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

สภาผู้แทนฯสหรัฐผ่านร่างกม.ความมั่นคงแห่งชาติคาดทรัมป์วีโต้ขวางบังคับใช้
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง335ต่อ78เสียงผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือNDAA) มูลค่า7.40แสนล้านดอลลาร์ก่อนที่จะส่งต่อให้วุฒิสภาลงมติเป็นลำดับต่อไปซึ่งคาดว่าร่างกฎหมายจะผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและหลังจากนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เพื่อพิจารณาว่าเขาจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายหรือใช้สิทธิ์วีโต้ก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าเขาจะใช้สิทธิ์วีโต้เพื่อไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างไรก็ดีคะแนนเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีสูงถึง335ต่อ78เสียงนั้นนับว่ามากพอที่จะสามารถสกัดการใช้สิทธิ์วีโต้ของปธน.ทรัมป์ได้ทั้งนี้ร่างกฎหมายNDAA กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐดำเนินการในทุกๆด้านตั้งแต่การพิจารณาว่าจะซื้อเรือและอาวุธปืนไรเฟิลจำนวนเท่าใดไปจนถึงเงินเดือนและสวัสดิการของเหล่าทหารที่อยู่แนวหน้าในการรับมือกับภัยคุกคามจากรัสเซียและจีน
                    
ทำเนียบขาวเสนอร่างเยียวยาโควิดวงเงิน9.16แสนล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรส
ทำเนียบขาวเสนอร่างมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19ฉบับใหม่วงเงิน9.16แสนล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อนนายสตีเวนมนูชินรัฐมนตรีคลังสหรัฐระบุในแถลงการณ์หลังจากยื่นข้อเสนอมาตรการดังกล่าวต่อนางแนนซีเพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า "ข้อเสนอนี้รวมถึงเม็ดเงินสำหรับรัฐบาลระดับรัฐและท้องถิ่นตลอดจนการคุ้มครองความรับผิดที่แข็งแกร่งสำหรับภาคธุรกิจโรงเรียนและมหาวิทยาลัย"   นายมนูชินเปิดเผยว่าเขาได้ทบทวนข้อเสนอดังกล่าวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐและผู้นำรัฐสภาของพรรครีพับลิกันแล้วนายมนูชินกล่าวว่า "ผมหวังว่าเราจะบรรลุข้อตกลงร่วมระหว่างสองพรรคเพื่อที่เราจะสามารถบรรเทาวิกฤตทางเศรษฐกิจแก่คนงานครอบครัวและธุรกิจชาวอเมริกันได้"     สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าข้อเสนอใหม่ที่จัดทำขึ้นโดยทำเนียบขาวครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกของฝ่ายคณะบริหารของปธน.ทรัมป์นับตั้งแต่วันเลือกตั้งท่ามกลางความขัดแย้งที่ยาวนานหลายเดือนในการเจรจาบรรเทาทุกข์
 
อ็อกซ์ฟอร์ดเผยผลทดลองชี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ประสิทธิภาพ 70.4%
มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเปิดเผยในวันนี้ว่าผลการวิเคราะห์ข้อมูลในการทดลองระยะที่ 3 พบว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ทางมหาวิทยาลัยทำการพัฒนาร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้ประสิทธิภาพเฉลี่ย 70.4%   ทั้งนี้ผลการทดลองดังกล่าวซึ่งมีการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์The Lancet ระบุว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 62% สำหรับอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 ครั้งๆละ 1 โดสและจะมีประสิทธิภาพ 90% สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครั้งแรกครึ่งโดสและครั้งที่ 2 จำนวน 1 โดสนายปาสกาลโซริออทประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอสตร้าเซนเนก้ากล่าวว่าทางบริษัทได้ยื่นข้อมูลการทดลองวัคซีนให้แก่หน่วยงานต่างๆทั่วโลกแล้วเพื่อให้มีการอนุมัติวัคซีนในไม่ช้า   "สายการผลิตและจัดส่งวัคซีนของเราในทั่วโลกได้เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการขนส่งวัคซีนจำนวนหลายร้อยล้านโดสแล้ว" นายโซริออทกล่า                   

ขอขอบคุณ  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More