กองทุน SPDRขายทองคำ12.08 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐการประชุมอีซีบี
แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคกลับเป็นขาขึ้น
- ราคาทองคำ Spotในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ เนื่องจากความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยขายทองคำ 12.08 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในช่วงกลางสัปดาห์ราคาทองคำปรับขึ้นทะลุ 1,800 ดอลลาร์และปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมกันผลักดันในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ซึ่งราคาทองคำเมื่อวานปรับขึ้นแรงจากประเด็นดังกล่าวหลังจากสหรัฐประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง245,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 480,000 ตำแหน่ง
- ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์การประชุมธนาคารกลางยุโรป สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19และความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot ทางด้านเทคนิคกลับเป็นขาขึ้น หลังจากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ 1,850 ดอลลาร์ได้ ระยะสั้นคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,850-1,875ดอลลาร์ โดยมีแนวรับ 1,850 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,825 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน1,875 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,860.40 | +21.90 | 1,850/1,825 | 1,875/1,890 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
26,250 | -50 | 26,400/26,100 | 26,700/26,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
26,330 | -50 | 26,530/26,220 | 26,850/27,040 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่ 1,850 ดอลลาร์ (GF26,530 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์ (GF 26,430 บาท)
การลงทุนในทองแท่งแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,825ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,836.50 | -6.30 | 1,850/1,825 | 1,875/1,890 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,850 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเริ่มทรงตัว หลังจากแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวานเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าหลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)สำหรับ USD Futures เดือนธ.ค.63 คาดจะมีแนวรับที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.25บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:ปอนด์อ่อนกังวลเจรจาข้อตกลงหลังBrexitไม่คืบหน้า
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) หลังจากนายบอริสจอห์นสันนายกรัฐมนตรีอังกฤษและนางเออร์ซูลาฟอนเดอร์เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าหลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดพุ่ง $26 รับความหวังสหรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในไม่ช้านี้หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย. สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 26 ดอลลาร์หรือ 1.41% ปิดที่ 1,866 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 54.1 เซนต์หรือ 2.23% ปิดที่ 24.794 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดลบ 50 เซนต์นลท.กังวลโควิดฉุดดีมานด์ทรุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 50 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 45.76 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 46 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดลบ 148.47 จุดวิตกยอดโควิดพุ่งในสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐรวมทั้งการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในบางรัฐของสหรัฐนอกจากนี้ดาวโจนส์ยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างไรก็ดีดัชนีNasdaq ปิดทำนิวไฮโดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเนื่องจากนักลงทุนมองว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์จากคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,069.79 จุดลดลง 148.47 จุดหรือ -0.49% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,691.96 จุดลดลง 7.16 จุดหรือ -0.19% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 12,519.95 จุดเพิ่มขึ้น 55.72 จุดหรือ +0.45%
"ไฟเซอร์" ส่งมอบวัคซีนต้านโควิดได้เพียง50ล้านโดสปีนี้มีปัญหาซัพพลายเชน
บริษัทไฟเซอร์อิงค์ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่าทางบริษัทจะสามารถจัดส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19ได้เพียง50ล้านโดสเท่านั้นในปีนี้ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะจัดส่งได้100ล้านโดสเนื่องจากบริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชนรวมทั้งพบว่าการขนส่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนนั้นยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานแถลงการณ์ของไฟเซอร์ระบุว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนโดสของวัคซีนที่บริษัทคาดการณ์ว่าจะจัดส่งได้ภายในปี2563และการเพิ่มซัพพลายเชนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนนั้นจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้นอกจากนี้ยังเกิดความล่าช้าในการผลิตวัคซีนสำหรับใช้ในการทดลองทางคลินิกด้วยอย่างไรก็ดีไฟเซอร์ระบุว่าสายการผลิตอย่างเต็มรูปแบบในสหรัฐและยุโรปได้เสร็จสมบูรณ์แล้วในขณะนี้และทางบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถจัดส่งวัคซีนได้ตามเป้าหมายทั้งนี้วัคซีนของไฟเซอร์จะต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -94องศาฟาห์เรนไฮต์ (-70องศาเซลเซียส) ขณะที่วัคซีนโควิดของบริษัทโมเดอร์นาสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิ36-46องศาฟาห์เรนไฮต์ (2.22-7.78องศาเซลเซียส) ซึ่งเป็นอุณหภูมิมาตรฐานสำหรับตู้เย็นที่ใช้ในครัวเรือนโดยสามารถเก็บรักษาได้นาน30วันและหากมีการจัดเก็บวัคซีนไว้ที่อุณหภูมิต่ำถึง -4องศาฟาห์เรนไฮต์ (-20องศาเซลเซียส) ก็จะสามารถเก็บรักษาวัคซีนได้นานถึง6เดือนทั้งนี้ไฟเซอร์และโมเดอร์นาได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19เป็นกรณีฉุกเฉินแล้วโดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19สูงกว่า90%ตามข้อมูลขั้นต้นจากการทดลองทางคลินิก
"ไบเดน" จ่อสั่งชาวมะกันทุกคนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่รัฐเป็นเวลา 100 วัน
นายโจไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่าเขาจะออกคำสั่งให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในอาคารของรัฐบาลกลางและในระหว่างการเดินทางระหว่างรัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลา 100 วันนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. 2564 นายไบเดนระบุว่าเขาจะสั่งการให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากในทุกสถานที่ๆรัฐบาลกลางมีอำนาจพร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนสวมหน้ากากในช่วง 100 วันแรกของการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา "ไม่ใช่สวมตลอดไปแต่แค่ 100 วัน" นายไบเดนกล่าว "และผมคิดว่าเราจะเห็นยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างมาก" ทั้งนี้นายไบเดนแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่เขาพูดถึงบทบาทของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีในการเป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างมากกับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ซึ่งมักละเลยการสวมหน้ากากในที่สาธารณะและล้อเลียนนายไบเดนที่สวมหน้ากากด้านทำเนียบข่าวประกาศยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าจัดงานเลี้ยงฉลองวันหยุดเป็นกลุ่มเล็กๆแม้ว่าสหรัฐมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิดรายวันสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ก็ตามที่ได้รับการจัดรูปแบบแล้ว "ไบเดน" วอน "ฟอซี" ดำรงตำแหน่งเดิมดึงเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว-ร่วมทีมโควิด นายโจไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่าเขาได้ขอให้นายแพทย์แอนโทนีฟอซีผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐดำรงตำแหน่งปัจจุบันต่อไปและขอให้เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ให้กับไบเดนรวมถึงร่วมในคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ด้วยภายหลังจากที่นายไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. 2564 นายไบเดนระบุว่า "ผมขอให้นายแพทย์ฟอซีดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปและยังขอให้เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของผมรวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ด้วย" นอกจากนี้นายไบเดนกล่าวเสริมว่าเขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เมื่อนายแพทย์ฟอซีระบุว่ามีความปลอดภัยและพร้อมที่จะฉีดวัคซีนดังกล่าวแบบเปิดเผยต่อสาธารณะ "เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสื่อสารกับชาวอเมริกันว่าการฉีดวัคซีนนั้นมีความปลอดภัย" นายไบเดนกล่าวนอกจากนี้นายไบเดนยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่าภายหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเขาจะออกคำสั่งให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในอาคารของรัฐบาลกลางและในระหว่างการเดินทางระหว่างรัฐเช่นโดยเครื่องบินและรถประจำทางนายไบเดนระบุว่า "ผมจะขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 100 วันไม่ใช่สวมตลอดไปแต่แค่ 100 วัน" ทั้งนี้สหรัฐยังคงเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศโดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาสหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงแตะ 2,811 รายซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.